Publication Ethics

บทนำ

        วารสารมีนโยบายจริยธรรมการวิจัยในมนุษย์ โดย บทความจากงานวิจัยที่ส่งเข้ามารับการเผยแพร่และเกี่ยวข้องกับการทำวิจัยในมนุษย์ ต้องได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการพิจารณาจริยธรรมการวิจัยในมนุษย์จากสถาบันที่ผ่านการรับรองจากสำนักงานมาตรฐานการวิจัยในมนุษย์ สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ และเป็นไปตามมาตรฐานจริยธรรมและกฎหมายสากล ดังนั้น ผู้เขียนอาจต้องแนบเอกสารการขอจริยธรรมการทำวิจัยในมนุษย์ (ถ้ามี)

จริยธรรมการตีพิมพ์ของผู้แต่ง

  1. บทความของผู้แต่งที่ส่งมาพิจารณาในวารสารบริหารธุรกิจและเทคโนโลยีสารสนเทศต้องเป็นผลงานวิจัยที่ไม่เคยเผยแพร่ หรืออยู่ในขั้นตอนการพิจารณาเพื่อเผยแพร์กับวารสารใด ๆ มาก่อน
  2. ผู้แต่งต้องระมัดระวังเรื่องการคัดลอกผลงาน (Plagiarism) โดยจะต้องไม่คัดลอกผลงานของผู้แต่งท่านอื่นรวมทั้งผลงานของผู้แต่งเอง (Self-plagiarism) และทุกครั้งที่อ้างถึงเนื้อหาจากบทความอื่น ๆ ผู้แต่งจะต้องอ้างอิงถึงบทความนั้น ๆ ทุกครั้ง
  3. หากบทความวิจัยที่จะส่งมาพิจารณาในวารสารเกี่ยวข้องกับ ผู้เข้าร่วม/อาสาสมัคร หรือสัตว์ ผู้วิจัยควรตรวจสอบและดำเนินการตามหลักจริยธรรม โดยปฏิบัติตามกฎหมายและข้อบังคับอย่างเคร่งครัด และผู้เข้าร่วม/อาสาสมัครต้องให้ความยินยอมก่อนการเก็บรวบรวมข้อมูลเสมอ
  4. หากเป็นงานวิจัยที่ได้รับทุนสนับสนุนจากแหล่งทุนใด ๆ ผู้แต่งต้องเปิดเผยแหล่งทุนที่ให้การสนับสนุนลงในบทความ
  5. ลิขสิทธิ์ (Copyright) ของบทความเป็นของวารสารบริหารธุรกิจและเทคโนโลยีสารสนเทศ ดังนั้น ผู้แต่งต้องยินยอมโอนลิขสิทธิ์ให้แก่วารสาร และต้องไม่นำผลงานไปเผยแพร่กับวารสารอื่นหลังจากที่ได้รับการเผยแพร่กับวารสารบริหารธุรกิจและเทคโนโลยีสารสนเทศ
  6. ชื่อผู้แต่งทุกคนที่ปรากฎในบทความจะต้องเป็นผู้ที่มีส่วนร่วมในผลงานวิชาการ และทางวารสารจะไม่อนุญาตให้แก้ไขชื่อผู้แต่งหลังจากที่บทความได้รับการเผยแพร่ นอกจาก ชื่อผู้แต่งเกิดข้อผิดพลาด เช่น การสะกดตัวอักษรผิด ชื่อของสถาบันผิด เป็นต้น

 บทบาทและหน้าที่ของกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ 

  1. กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิต้องไม่แสวงหาผลประโยชน์จากผลงานทางวิจัยที่ตนเองประเมิน
  2. กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิต้องพิจารณาคุณภาพของบทความ โดยใช้หลักการและเหตุผลทางวิชาการ และต้องไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับผู้แต่ง (Conflict of interest)
  3. การตอบรับเป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเพื่อพิจารณาบทความใด ๆ จะต้องคำนึงถึงความรู้ ความสามารถของตนเอง เพื่อที่จะได้ประเมินบทความได้อย่างมีคุณภาพ
  4. หากกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิพิจารณาบทความและพบว่าบทความนั้นมีการคัดลอกผลงานจากงานวิจัยอื่น จะต้องแจ้งให้บรรณาธิการทราบโดยทันที
  5. กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจะต้องไม่เปิดเผยรายละเอียดของบทความที่ได้พิจารณาให้ผู้อื่นได้รับทราบ และต้องรักษาระยะเวลาในการพิจารณาบทความให้เป็นไปตามช่วงเวลาที่ทางวารสารได้กำหนด

 บทบาทและหน้าที่ของบรรณาธิการ

  1. บรรณาธิการวารสารบริหารธุรกิจและเทคโนโลยีสารสนเทศ มีหน้าที่พิจารณาบทความที่ส่งเข้ารับการพิจารณาโดยต้องพิจารณาบทความนั้น ๆ ว่ามีความสอดคล้องกับจุดมุ่งหมายและขอบเขต (Aim and Scope) ของวารสารหรือไม่
  2. บรรณาธิการต้องตรวจสอบกระบวนการประเมินคุณภาพบทความ รวมถึงคุณภาพของบทความทุกบทความก่อนการเผยแพร่
  3. บรรณาธิการมีหน้าที่ตรวจสอบการคัดลอกผลงาน (Plagiarism) และหากพบความผิดปกติของบทความ เช่น พบการคัดลอก หรือซ้ำซ้อน สามารถหยุดกระบวนการพิจารณา และติดต่อผู้แต่งเพื่อขอคำชี้แจงเพื่อประกอบการพิจารณาบทความนั้น ๆ
  4. บรรณาธิการต้องไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับผู้แต่ง (Conflict of interest) หรือกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ
  5. บรรณาธิการต้องไม่เปลี่ยนแปลงเนื้อหาในบทความ และผลการประเมินบทความจากกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ
  6. บรรณาธิการต้องปฏิบัติการขั้นตอนการพิจารณาบทความของวารสารอย่างเคร่งครัด
  7. บรรณาธิการต้องรักษามาตรฐานและพัฒนาวารสารให้มีคุณภาพยิ่งขึ้นไป

หมายเหตุ แปลและปรับปรุงข้อมูลจาก Committee on Publication Ethics (https://publicationethics.org) ศูนย์ดัชนีการอ้างอิงวารสารไทย (https://tci-thailand.org)