การตรวจหาสารกำจัดศัตรูพืชตกค้างในกลุ่มออร์กาโนฟอสเฟตและกลุ่มคาร์บาเมตจากผักที่ขึ้นทะเบียนเกษตรกรของสำนักงานเกษตรจังหวัดนนทบุรี

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อวิเคราะห์ และหาความสัมพันธ์ของผลการตรวจหาสารกำจัดศัตรูพืชตกค้างในกลุ่มออร์กาโนฟอสเฟตและกลุ่มคาร์บาเมตของผักที่ขึ้นทะเบียนเกษตรกรของสำนักงานเกษตรจังหวัดนนทบุรี เป็นการวิจัยเชิงทดลองจากผักที่ขึ้นทะเบียนเกษตรกร 5 ชนิด ได้แก่ กะเพรา โหระพา คะน้า ผักกาดหอม และถั่วฝักยาว ชนิดละ 18 ตัวอย่าง รวม 90 ตัวอย่าง และทดสอบด้วยชุดทดสอบยาฆ่าแมลง-สารพิษตกค้าง "จีที" Pesticide Test Kit วิเคราะห์ผลการทดสอบความสัมพันธ์ โดยใช้สถิติ Chi-Square Tests (X^2)ผลการวิจัยพบว่า 1) ชนิดของผักที่พบสารกำจัดศัตรูพืชในกลุ่มออร์กาโนฟอสเฟต และคาร์บาเมตตกค้างในระดับไม่ปลอดภัยจำนวนมากที่สุด คือ ผักกาดหอม รองลงมา คือ ผักคะน้า และกะเพรา ผักที่พบสารกำจัด ศัตรูพืชตกค้างในระดับปลอดภัยจำนวนมากที่สุด คือ ถั่วฝักยาว ส่วนผักที่ตรวจไม่พบสารกำจัดศัตรูพืชตกค้าง คือ กะเพราและโหระพา ซึ่งพบว่ามีความสัมพันธ์อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 (X^2 = 36.385,Sig = .000) 2) อำเภอในจังหวัดนนทบุรีที่ผักได้ขึ้นทะเบียน พบว่าอำเภอ A และอำเภอ B ตรวจพบสารกำจัดศัตรูพืชตกค้างอยู่ในผักในระดับที่ปลอดภัยและไม่มีความสัมพันธ์กับการตรวจพบสารกำจัดศัตรูพืชตกค้าง (X^2 = 3.696, Sig = .158) และ 3) รูปแบบแปลงปลูกผัก พบว่า ผักที่ได้จากแปลงรูปอื่นๆ (แบบร่อง) ตรวจพบสารกำจัดศัตรูพืชตกค้างในระดับไม่ปลอดภัย ส่วนผักจากแปลงรูปยาวตลอด และแปลงรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าและจัตุรัสอยู่ในระดับปลอดภัย มีความสัมพันธ์อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 (X^2 = 10.333, Sig = .035) สามารถสรุปได้ว่า การตรวจหาสารกำจัดศัตรูพืชตกค้างทั้งกลุ่มออร์กาโนฟอสเฟตและกลุ่มคาร์บาเมตในผักที่ขึ้นทะเบียนเกษตรกรของสำนักงานเกษตรจังหวัดนนทบุรี มีความสัมพันธ์กับชนิดของผักและรูปแบบแปลงผักที่ใช้ปลูก แต่ไม่มีความสัมพันธ์กับพื้นที่อำเภอที่ขึ้นทะเบียน