การศึกษาผลการเรียนรู้รายวิชาประวัติศาสตร์ เรื่องพัฒนาการอาณาจักรอยุธยา ด้วยการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดกาเย่ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนเมืองอุบล สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุบลราชธานี เขต 1
คำสำคัญ:
ผลการเรียนรู้, วิชาประวัติศาสตร์, พัฒนาการอาณาจักรอยุธยา, การจัดการเรียนรู้, แนวคิดกาเย่บทคัดย่อ
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาผลการเรียนรู้และเปรียบเทียบผลการเรียนรู้ รายวิชาประวัติศาสตร์ เรื่องพัฒนาการอาณาจักรอยุธยา ด้วยการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดกาเย่ ตัวอย่างที่ใช้ทดลองคือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนเมืองอุบล จำนวน 18 คน โดยการสุ่มแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย 1. แผนการจัดการเรียนรู้ และแบบทดสอบ สถิติที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ค่าร้อยละ ผลการวิจัยพบว่า 1) ผลสัมฤทธิ์จากการทำแบบทดสอบเรื่องพัฒนาการของอาณาจักรอยุธยา ก่อนเรียนและหลังเรียน เมื่อได้รับการสอนโดยจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดกาเย่ พบว่า นักเรียนมีค่าเฉลี่ยของคะแนนสูงขึ้น มีคะแนนเฉลี่ยก่อนเรียน เท่ากับ 4.22 คิดเป็นร้อยละ 42.22 และมีคะแนนเฉลี่ยหลังเรียน เท่ากับ 8.67 คิดเป็นร้อยละ 86.67 แสดงให้เห็นว่า นักเรียนมีคะแนนการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน และผ่านเกณฑ์มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนไม่น้อยกว่าร้อยละ 70 และ 2) ผลเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่ได้ทำแบบทดสอบ เรื่องพัฒนาการของอาณาจักรอยุธยา ก่อนเรียนและหลังเรียน เมื่อได้รับการสอนโดยจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดกาเย่ พบว่า นักเรียนมีค่าเฉลี่ยของคะแนนสูงขึ้น มีคะแนนเฉลี่ยก่อนเรียน เท่ากับ 4.22 คิดเป็นร้อยละ 42.22 และมีคะแนนเฉลี่ยหลังเรียน เท่ากับ 8.67 คิดเป็นร้อยละ 86.67 แสดงให้เห็นว่า นักเรียนมีคะแนนการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน และผ่านเกณฑ์มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนไม่น้อยกว่าร้อยละ 70
เอกสารอ้างอิง
กระทรวงศึกษาธิการ. (2551). ตัวชี้วัดและสาระการเรียนรู้แกนกลาง กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม. กระทรวงศึกษาธิการ.
กระทรวงศึกษาธิการ. (2560). หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง 2560). คุรุสภาลาดพร้าว.
กรมวิชาการ. (2551). หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551. กรมวิชาการ.
จตุพร ดวงศรี. (2564). การพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้แบบร่วมมือประกอบแผนผังความคิด เรื่องอยุธยาและธนบุรีของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5. วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต (สังคมศึกษา) มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม.
เฉลิม มลิลา นิติเขตต์ปรีชา. (2559). เทคนิควิธีการสอนประวัติศาสตร์. จุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย.
ชัยรัตน์ ตั๋นสกุล และคณะ. (2563). การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาประวัติศาสตร์ เรื่องพัฒนาการของอาณาจักรอยุธยา โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบวัฏจักรการเรียนรู้ (4 MAT) สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2. วารสารวิจัยธรรมศึกษา, 3(1), 27-35.
ทิศนา แขมมณี. (2542). ศาสตร์การสอนองค์ความรู้เพื่อการจัดการกระบวนการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพ. จุฬาลงกรมหาวิทยาลัย.
ทิศนา แขมมณี.(2557). ศาสตร์การสอน: องค์ความรู้เพื่อการจัด กระบวนการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพ (พิมพ์ครั้งที่ 18). จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
ประดินันท์ อุปรมัย. (2542). จิตวิทยาของฟรอยด์ (พิมพ์ครั้งที่ 2). มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช.
ปิยราษฎร์ บุญวิเศษ. (2560). ผลการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง ประวัติศาสตร์ไทยสมัยอยุธยา ของนักเรียนระดับชั้นประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) ชั้นปีที่ 1 รายวิชา ประวัติศาสตร์ชาติไทย ด้วยชุดแบบฝึกทักษะ. วิทยาลัยเทคโนโลยีพระรามหก.
ปรียาพร วงค์อนุตรโรจน์. (2551). จิตวิทยาการศึกษา. ศูนย์สื่อเสริมกรุงเทพฯ.
ไพศาล หวังพานิช. (2533). การวัดผลการศึกษา. สำนักทดสอบทางการศึกษาและจิตทยามหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.
ล้วน สายยศ และอังคณา สายยศ. (2553). เทคนิคการวิจัยทางการศึกษา (พิมพ์ครั้งที่ 3). สุวีริยาสาสน์.
สำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา. (2558). คู่มือบริหารจัดการเวลาเรียน “ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้”. สำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา.
อารมณ์ สนานภู่. (2539). ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับงานวิจัย. ราชบัณฑิตยสถาน.