ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการใช้สมุนไพรในการดูแลตนเองของประชาชน ตำบลโพธิ์ อำเภอเมือง จังหวัดศรีสะเกษ

ผู้แต่ง

  • ศรีงามลักษณ์ ศรีปวริศร
  • ศิวิไล โพธิ์ชัย
  • ณัฐธยาน์ บุญมาก บุญมาก
  • น่ารัก จุดาบุตร

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงพรรณนา มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการใช้สมุนไพรในการดูแลตนเองของประชาชนในตำบลโพธิ์ อำเภอเมือง จังหวัดศรีสะเกษ โดยศึกษาจากกลุ่มตัวอย่างซึ่งเป็นประชากรทั้งหมดจำนวน 400 คน ขนาดของกลุ่มตัวอย่างได้จากการสุ่มตัวอย่างง่าย (Simple Random Sampling) ในการวิจัยครั้งนี้คำนวณจากสูตรการกำหนดขนาดตัวอย่างของทาโรยามาเน่ (Yamane 1973: 580-581) ที่ระดับความเชื่อมั่นร้อยละ 95 เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลเป็นแบบสอบถามที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น ซึ่งผ่านการตรวจสอบความตรงเชิงเนื้อหาจากผู้ทรงคุณวุฒิจำนวน 3 ท่าน ตรวจสอบความเชื่อมั่น โดยวิธีแอลฟ่าของครอนบาค ได้ค่าสัมประสิทธิ์เท่ากับ 0.94 วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนาได้แก่ ค่าความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน วิเคราะห์ความสัมพันธ์ใช้สถิติไคว์สแควร์ และสถิติสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์แบบเพียร์สัน

คำผลการวิจัย พบว่า                                                  

  1. พฤติกรรมการใช้สมุนไพรในการดูแลสุขภาพตนเองของกลุ่มตัวอย่าง โดยรวมและจำแนกรายด้านอยู่ในระดับปานกลาง โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 1.76 (S.D=0.80)
  2. ความรู้เกี่ยวกับการใช้สมุนไพรในการดูแลสุขภาพตนเอง กลุ่มตัวอย่าง โดยรวมและจำแนกรายด้านอยู่ในระดับต่ำ โดยมีค่าเฉลี่ย เท่ากับ 0.69 (S.D=0.47)
  3. ความรู้เกี่ยวกับการใช้สมุนไพรในการดูแลสุขภาพตนเองมีความสัมพันธ์เชิงบวกกับพฤติกรรมการใช้สมุนไพรในการดูแลสุขภาพตนเองในด้านระบบทางเดินปัสสาวะ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05
  4. ปัจจัยส่วนบุคคล ได้แก่ สถานภาพ การศึกษา มีความสัมพันธ์เชิงบวกกับพฤติกรรมการใช้สมุนไพรในการดูแลสุขภาพตนเอง ปัจจัยส่วนบุคคล ได้แก่ เพศ อายุ โรคประจําตัว รายได้ อาชีพ และประสบการณ์การใช้สมุนไพร ไม่มีมีความสัมพันธ์เชิงบวกกับพฤติกรรมการใช้สมุนไพรในการดูแลสุขภาพตนเอง

References

กนกกาญจน์ วิชาศิลป์และคณะ.(2559); การรับรู้ถึงสมุนไพรรักษาโรคของผู้บริโภคในภาค

ตะวันออกเฉียงเหนือของไทย. แก่นเกษตร. 44 ฉบับพิเศษ 1

กมลาภรณ์ คงสุขวิวัฒน์และคณะ.(2554). รายงานการวิจัยภูมิปัญญาพื้นบ้าน: กรณีศึกษาอาหารพื้นบ้าน

ไทยภาคเหนือ ตําบลแม่ทา กิ่งอําเภอแม่ออน จังหวัดเชียงใหม่ และตําบลเขาทอง อําเภอพยุหะศิรจังหวัดนครสวรรค์. พิมพ์ครั้งที่ 1. ศูนย์ฝึกอบรมและพัฒนาการสาธารณสุขมูลฐาน ภาคเหนือ จังหวัดนครสวรรค์.

กลยุทธ์ส่งเสริมการใช้ยาจากสมุนไพรแทนยาแผนปัจจุบัน 2559. [อินเตอร์เน็ต]. [ สืบค้นเมื่อวันที่ 15 ม.ค.

. จาก: http://rdo.psu.ac.th/images/D2/budget/strategic issues/5559 9.pdf

กองคุ้มครองภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์พื้นบ้าน. กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและ

การแพทย์ทางเลือก. อินเตอร์เน็ต]. สืบค้นเมื่อวันที่ 15 ม.ค.2564 ]; จากhttp://ptmk.dtam.moph.

go.th/home.php

โกมาตร จึงเสถียรทรัพย์. (2558) พหุลักษณ์ทางการแพทย์: มุมมองมานุษยวิทยากับความหลากหลายของ

วัฒนธรรมสุขภาพในพหุลักษณ์ทางการแพทย์กับสุขภาพในมิติสังคมวัฒนธรรม.กรุงเทพฯ: ศูนย์มานุษยวิทยาสิริธร. .

จารุวรรณ ศรีสร้อย, พิไลวรรณ ลี้พล, กาญจนา วงษ์สวัสดิ์.(2556) ปัจจัยที่มีผลต่อการบริโภคยาต้มสมุนไพร

ของประชาชนบ้านโคกลาย ตําบลม่วงลาย อําเภอเมือง จังหวัดสกลนคร. [อินเตอร์เน็ต].สืบค้นเมื่อวันที่ 15 ม.ค. 2564]. จาก: http://cph.snru.ac.th.

เตือนใจ อยู่ดี.(2554). ความรู้ในการใช้สมุนไพรของผู้มารับบริการจากโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร

อําเภอเมืองจังหวัดปราจีนบุรี. วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต.มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์.นโยบายและทิศทางการขับเคลื่อนกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกปี 2558 – 2559. [อินเตอร์เน็ต]. [สืบค้นเมื่อวันที่ 15 ก.พ. 2564]; จาก: https://www.dtam.moph.go.th/index.php?lang=th

ปุญญพัฒน์ ไชยเมล์, ตั้ม บุญรอด, วิชชาดา สิมลา, (2554) .ปัจจัยที่มีผลต่อการใช้สมุนไพรในการดูแล

สุขภาพเบื้องต้นของประชาชน ตําบลแหลมโตนด อําเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง [อินเตอร์เน็ต].

[สืบค้นเมื่อวันที่ 17 มี.ค 2564]. จากhttp://digital_collect.lib.buu.ac.th/o js/index.php/health/article/view/2603

พาณี ศิริสะอาด. ภูมิปัญญาเพื่อสุขภาพ. ไทยนิวส์. 7 ม.ค. 2564: น. 5.

มาลิน จุลศิริ.(2557). รายงานการวิจัยเรื่องสารสกัดจากพืชเพื่อแก้โรคท้องร่วงท้องเดิน. ศูนย์ฝึกอบรมและ

พัฒนาสาธารณสุขอาเซียน.กรุงเทพฯ:. มหาวิทยาลัยมหิดล.

วิไลวรรณ ชัยณรงค์.(2554).ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการใช้สมุนไพรเพื่อรักษาเบื้องต้นของ

ประชาชนในเขต อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี. วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต มหาวิยาลัยเกษตรศาสตร์.

ศันสนีย์ ฤทธิ์ทองพิทักษ์.(2556).การเปิดรับข่าวสาร ความรู้ ทัศนคติ และการใช้สมุนไพรไทยของคนกรุงเทพมหานคร. วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

สํานักงานสถิติแห่งชาติ.(2557). การสํารวจพฤติกรรมการดูแลรักษาตนเองด้วยแพทย์แผนไทยและสมุนไพร

ของครัวเรือน พ.ศ. 2556. [อินเตอร์เน็ต]. [สืบค้นเมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2564. จาก: https://www.m-society.go.th/article_attach/11617/15921.pdf

สุกิจ ไชยชมภู.(2555). ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการใช้สมุนไพรรักษาโรคของประชาชนในเขต

กระทรวงสาธารณสุข. วารสารเกื้อการุณย์.;19(2):60-74.

สุนีย์ แป้นทะเล.(2552) การศึกษาพฤติกรรมการใช้สมุนไพรเพื่อการดูแลสุขภาพของคนในชุมชนเครือข่าย

ป่าตะวันออก กรณีศึกษา บ้านนาอีสาน หมู่ที่ 16 ตําบลท่ากระดาน อําเภอสนามชัย จังหวัดฉะเชิงเทรา.[วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี. .

Gedif, T. and J. Hahn. (2003). The use of medicinal plants in self-care in rural central

Ethiopia. Journal of Ethnopharmacology.6(8):155-61.

Taro Yamane. (1967). Statistics: An Intro-ductory Analysis.N.Y. Harper and Row 1967 p.886 (Mimeographed.)

Downloads

เผยแพร่แล้ว

2022-12-13

How to Cite

ศรีปวริศร ศ. ., โพธิ์ชัย ศ., บุญมาก ณ. บ., & จุดาบุตร น. . (2022). ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการใช้สมุนไพรในการดูแลตนเองของประชาชน ตำบลโพธิ์ อำเภอเมือง จังหวัดศรีสะเกษ. วารสารวิชาการเฉลิมกาญจนา (Online), 9(1), 69. สืบค้น จาก https://so19.tci-thaijo.org/index.php/cnujournal/article/view/261