การจัดการภัยพิบัติในระดับท้องถิ่น: กรณีศึกษาน้ำท่วมในภาคใต้ของประเทศไทย

ผู้แต่ง

  • เนติมาย์ ไวยรัตน์ คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเฉลิมกาญจนา

คำสำคัญ:

การจัดการภัยพิบัติ, น้ำท่วม, องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น, เทคโนโลยีเตือนภัย, การมีส่วนร่วมของประชาชน

บทคัดย่อ

ภัยพิบัติน้ำท่วมเป็นปัญหาสำคัญที่เกิดขึ้นเป็นประจำในภาคใต้ของประเทศไทย ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม การจัดการภัยพิบัติในระดับท้องถิ่นจึงมีบทบาทสำคัญในการลดผลกระทบจากน้ำท่วม การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษากลยุทธ์และแนวทางการจัดการภัยพิบัติน้ำท่วมขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) รวมถึงการมีส่วนร่วมของประชาชนและการใช้เทคโนโลยีในการบริหารจัดการภัยพิบัติ โดยใช้ระเบียบวิธีวิจัยแบบผสมผสาน (Mixed Methods Research) เก็บรวบรวมข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ เจ้าหน้าที่ อปท., ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยน้ำท่วม และผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดการภัยพิบัติ

ผลการวิจัยพบว่า (1) อปท. ที่มีการวางแผนเชิงยุทธศาสตร์และมีทรัพยากรเพียงพอ สามารถลดผลกระทบจากน้ำท่วมได้ดีกว่า, (2) การมีส่วนร่วมของประชาชนมีความสัมพันธ์เชิงบวกกับประสิทธิภาพของมาตรการจัดการภัยพิบัติ, (3) เทคโนโลยีเตือนภัย เช่น ระบบเซ็นเซอร์ตรวจจับระดับน้ำและแอปพลิเคชันแจ้งเตือนภัย มีส่วนช่วยลดอัตราการสูญเสียจากน้ำท่วมได้อย่างมีนัยสำคัญ อย่างไรก็ตาม อปท. ส่วนใหญ่ยังประสบปัญหาด้านงบประมาณและการบูรณาการแผนงานร่วมกับภาครัฐและเอกชน

การศึกษานี้เสนอแนะแนวทาง (1) การพัฒนาแผนบริหารจัดการภัยพิบัติในระดับท้องถิ่นให้มีความสอดคล้องกับสภาพแวดล้อมในแต่ละพื้นที่, (2) การส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนผ่านโครงการเฝ้าระวังภัยพิบัติระดับชุมชน, (3) การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อพยากรณ์น้ำท่วมและบริหารจัดการทรัพยากรได้อย่างมีประสิทธิภาพ ข้อค้นพบจากงานวิจัยนี้สามารถนำไปใช้เป็นแนวทางในการปรับปรุงนโยบายและมาตรการป้องกันน้ำท่วมในระดับท้องถิ่นของประเทศไทย

References

Alexander, D. (2002). Principles of Emergency Planning and Management. Oxford University Press.

Cutter, S. L., Barnes, L., Berry, M., et al. (2008). "A Place-Based Model for Understanding Community Resilience to Natural Disasters." Global Environmental Change, 18(4), 598-606.

Denhardt, R. B., & Denhardt, J. V. (2015). The New Public Service: Serving, not steering.Routledge.

Haddow, G. D., Bullock, J. A., & Coppola, D. P. (2017). Introduction to Emergency Management. Butterworth-Heinemann.

Paton, D., & Johnston, D. (2001). "Disasters and Communities: Vulnerability, Resilience and Preparedness." Disaster Prevention and Management, 10(4), 270-277.

Smith, A., Brown, K., & Thompson, R. (2020). "Artificial Intelligence in Flood Forecasting and Disaster Risk Reduction." International Journal of Environmental Science & Technology, 17(5), 1021-1035.

Wisner, B., Blaikie, P., Cannon, T., & Davis, I. (2004). At Risk: Natural Hazards, People’s Vulnerability and Disasters. Routledge.

กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย. (2564). รายงานสถานการณ์ภัยพิบัติน้ำท่วมในประเทศไทย. กรุงเทพฯ: กระทรวงมหาดไทย.

กรมอุตุนิยมวิทยา. (2565). แนวโน้มปริมาณน้ำฝนและความเสี่ยงน้ำท่วมในประเทศไทย. กรุงเทพฯ:กรมอุตุนิยมวิทยา.

สมศักดิ์ วงษ์สวัสดิ์. (2563). “แนวทางการจัดการภัยพิบัติน้ำท่วมขององค์การบริหารส่วนตำบลในภาคใต้.” วิทยานิพนธ์ปริญญาโท, มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์.

สำนักนโยบายและแผนทรัพยากรน้ำแห่งชาติ. (2565). รายงานการบริหารจัดการน้ำท่วมและภัยแล้งของประเทศไทย. กรุงเทพฯ: สำนักนโยบายและแผนทรัพยากรน้ำแห่งชาติ.

เผยแพร่แล้ว

2025-03-22

How to Cite

ไวยรัตน์ เ. . . (2025). การจัดการภัยพิบัติในระดับท้องถิ่น: กรณีศึกษาน้ำท่วมในภาคใต้ของประเทศไทย . วารสารวิชาการเฉลิมกาญจนา (Online), 11(1), 1–16. สืบค้น จาก https://so19.tci-thaijo.org/index.php/cnujournal/article/view/1638