การพัฒนาการเลี้ยงโคเนื้อบ้านน้ำโจ้ก ตำบลแก อำเภอรัตนบุรี จังหวัดสุรินทร์
DOI:
https://doi.org/10.14456/ajld.2024.1คำสำคัญ:
การพัฒนา, การเลี้ยงโคเนื้อ, บ้านน้ำโจ้กบทคัดย่อ
การวิจัยในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ คือ 1. เพื่อศึกษาสภาพปัจจุบัน สภาพที่พึงประสงค์ และความต้องการจำเป็นของรูปแบบ การเรียนรู้ของกลุ่มผู้เลี้ยงโคเนื้อ ของประชาชนชุมชนบ้านน้ำโจ้ก ตำบลแกอำเภอรัตนบุรี จังหวัดสุรินทร์2. เพื่อสร้างและพัฒนารูปแบบการเรียนรู้ของกลุ่มผู้เลี้ยงโคเนื้อของประชาชนชุมชนบ้านน้ำโจ้ก ตำบลแก อำเภอรัตนบุรี จังหวัดสุรินทร์ 3. เพื่อประเมินรูปแบบการเรียนรู้ ของกลุ่มผู้เลี้ยงโคเนื้อของประชาชนชุมชนบ้านน้ำโจ้ก ตำบลแก อำเภอรัตนบุรี จังหวัดสุรินทร์โดยใช้รูปแบบการวิจัยแบบผสมผสานวิธีระหว่างการวิจัยเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ ซึ่งการวิจัยเชิงปริมาณใช้กลุ่มตัวอย่างในการวิจัย คือ ประชาชนในชุมชนบ้านน้ำโจ้ก ตำบลแก อำเภอรัตนบุรี จังหวัดสุรินทร์ โดยใช้วิธีการสุ่มตัวอย่างจากสูตรของทาโรยามาเน่ ได้กลุ่มตัวอย่างรวมทั้งหมด 173 คน ด้วยวิธีการสุ่มตัวอย่างแบบหลายขั้นตอนใช้แบบสอบถามในการเก็บรวบรวมข้อมูลลักษณะของแบบสอบถามเป็นทั้งปลายเปิดและปลายปีดมีค่าความเชื่อมั่นของแบบสอบถามเชิงปริมาณเท่ากับ0.921 ทดสอบสมมติฐาน โดยการทดสอบค่าที (t) (One Way ANOVA) วิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว ในกรณีที่พบความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 จะทำการวิเคราะห์ความแตกต่างด้วยวิธีผลนัยสำคัญน้อยที่สุด สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย(x) และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และการวิจัยเชิงคุณภาพ โดยใช้การสัมภาษณ์เชิงลึก (In - depthInteriew) เป็นเครื่องมือสำหรับเก็บรวบรวมข้อมูล จำนวน 13 คน ได้แก่ ผู้ใหญ่บ้าน 1 คน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน 2 คน กลุ่มอาสาสมัครชุมชน 10 คน โดยใช้วิธีการเลือกแบบเจาะจง และใช้เทคนิคการวิเคราะห์เนื้อหาประกอบบริบท ผลการวิจัย พบว่า ผลการวิเคราะห์ความคิดเห็นต่อระดับแนวทางการพัฒนาการเลี้ยงโคเนื้อ ข้านน้ำโจ้ก ตำบลแก อำเภอรัตนบุรี จังหวัดสุรินทร์ โดยภาพรวม มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก ( = 4.17, S.D. = 0.574) เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่าระดับการพัฒนาการเลี้ยงโค ด้านการขยายพันธุ์โค เป็นด้านที่มีระดับสูงที่สุดมีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก ( =4. 30, S.D. = 1.075) รองลงมา คือ ด้านอาหารโค มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก( = 4.24, S.D. = 0.579)ด้านวิธีการเลี้ยงโ มีค่าเฉสี่ยระดับมาก ( = 4.07, S.D. = 0.0.586)ตามลำดับ และสุดท้ายคือ ด้านที่อยู่อาศัยโค มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก ( = 4.06, S.D. = 0.899)
References
กรมปศุสัตว์. (2557) ข้อมูลจำนวนเกษตรกรและปศุสัตว์ ในประเทศไทยกลุ่มสารสนเทศและข้อมูลสถิติ ศูนย์สารสนเทศ กรมปศุสัตว์.
จุฑารัตน์ เศรษฐกุลและคณะ. (2554) โครงการการวิจัยทดสอบระบบและต้นแบบการจัดการเนื้อโคธรรมชาติสู่ผู้บริโภค. คณะเทคโนโลยีการเกษตร: สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง.
ณัฐวุฒิ มณีรัตน์. (2548) ความต้องการส่งเสริมของเกษตรกรผู้เลี้ยงโคเนื้อในจังหวัดปราจีนบุรี. [วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต ไม่ได้ตีพิมพ์]. สาขาวิชา ส่งเสริมการเกษตรบัณทิตมหาวิทยาลัยขอนแก่นจังหวัดขอนแก่น.
ธารงค์ เมฆโหรา และณัฐนรากร จันทิมาน. (2552) รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ โครงการระบบการผลิตและการตลาดโคเนื้อ จังหวัดตาก. ชุดโครงการขยายโอกาสธุรกิจเนื้อโคไทย สำนักงาน กองทุนสนับสนุนการวิจัย.
เทียมพบ ก้านเหลือง และคณะ. (2552) รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ การศึกษาห่วงโซ่อุปทาน (Supplychain) โคเนื้อในจังหวัดชุมพร และประจวบคีรีขันธ์. ชุดโครงการระบบการผลิตและการ อาชีพการเลี้ยงโคพื้นเมือง. สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย.
ธีรชัย ช่อไม้. (2544) การเลี้ยงโคกบินทร์บุรีโดยใช้พื้นที่แปลงหญ้าแบบจำกัด ศูนย์วิจัยและบำรุงพันธุ์สัตว์กบินทร์ อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี. ส นักพัฒนาปศุสัตว์และถ่ายทอดเทคโนโลยี กรมปศุสัตว์,สถานีทดสอบพันธุ์สัตว์ปราจีนบุรี.
บุญมี โสภัง, พิชัย เชิงหอม, สมบัติ ศิลาชัย, ประมวล เขียวอ่อน, ทองจันทร์ พันนา และสุนันท์ นามวิชัย. (2548). "รายงานวิจัยเพื่อท้องถิ่น ฉบับสมบูรณ์" โครงการวิจัย รูปแบบการเลี้ยง โคเนื้อ.
Downloads
เผยแพร่แล้ว
How to Cite
ฉบับ
บท
หมวดหมู่
License
Copyright (c) 2024 วารสารวิชาการเพื่อพัฒนาท้องถิ่น

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.