ถอดบทเรียน: น้ำท่วมที่มีดินโคลนจำนวนมาก ในเมืองแม่สาย ประเทศไทย
คำสำคัญ:
น้ำท่วมที่มีตะกอนดินจำนวนมาก, การถอดบทเรียนเรื่องน้ำท่วม, การจัดการความรู้เรื่องน้ำท่วมบทคัดย่อ
งานวิจัยนี้เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ มีวัตถุประสงค์เพื่อถอดบทเรียนเรื่องน้ำท่วมที่มีดินโคลนจำนวนมาก ในเมืองแม่สาย ประเทศไทย กลุ่มตัวอย่าง หรือผู้รับการถอดบทเรียน ประกอบด้วย ผู้รับผิดชอบด้านอุตุนิยมวิทยา ผู้รับผิดชอบด้านป่าไม้ ผู้รับผิดชอบด้านอุทกภัย ผู้ที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลภูมิสารสนเทศ และผู้ที่เกี่ยวข้องกับการจัดการสถานการณ์ฉุกเฉิน ในอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย รวมมีจำนวนผู้ให้ข้อมูลหลัก 30 คน การคัดเลือกผู้ให้ข้อมูลหลัก ด้วยการใช้เทคนิคสโนบอล ผู้วิจัยทำการเก็บข้อมูลในพื้นที่ ด้วยวิธีการ สังเกตแบบมีส่วนร่วม การสังเกตแบบ ไม่มีส่วนร่วม ร่วมกับการสัมภาษณ์ระดับลึกกับกลุ่มตัวอย่าง จากนั้น วิเคราะห์ผลด้วยเทคนิค การวิเคราะห์ เนื้อหา ผลการศึกษา พบว่า 1)ปัจจัยหลักของการเกิดอุทกภัย คือ การมีฝนตกมากในพื้นที่ต่อเนื่องกัน เป็นเวลานาน ทั้งในพื้นที่อำเภอแม่สายของประเทศไทย และในพื้นที่อำเภอท่าขี้เหล็กของประเทศพม่า 2)ปัจจัยหลักของการมีดินโคลนจำนวนมากไหลมากับน้ำ คือ พบว่ามีพื้นที่ดินถล่มขนาดใหญ่เป็นจำนวนหลายจุด ในพื้นที่ที่มีฝนตกของทั้งสองประเทศ 3)บทเรียนที่ได้รับคือ แม่น้ำสาย เป็นแม่น้ำที่กั้นเขตแดนของประเทศไทยและประเทศพม่า ในขณะที่แต่ละประเทศมีข้อมูลที่ใช้ในการตัดสินใจเฉพาะของประเทศตนเอง เช่นข้อมูลปริมาณน้ำฝน ข้อมูลปริมาณน้ำที่ไหลลงแม่น้ำสาย ข้อมูลสภาพพื้นที่ป่าที่เสี่ยงต่อการเกิดดินถล่ม/ดินยุบตัว/ดินไหล เป็นต้น จึงทำให้มีปริมาณน้ำที่มีโคลน ไหลเข้าสู่ชุมชนมากเกินกว่าที่คาดการณ์ 4)การสะท้อนบทเรียนที่ได้รับ แต่ละหน่วยงานในประเทศ ได้กำหนดการบูรณาการข้อมูลร่วมกันอย่างใกล้ชิดในรูปคณะทำงานอย่างต่อเนื่อง และประสานงาน ในการติดตั้งเครื่องมือ/อุปกรณ์ เพื่อการจัดเก็บข้อมูลและแลกเปลี่ยนข้อมูล ร่วมกับประเทศพม่า เพื่อให้ได้ข้อมูลสำหรับการตัดสินใจที่ถูกต้องและรวดเร็ว
References
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย. (2015). แผนป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ พ.ศ. 2558. กรุงเทพฯ: กรม ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย.
กระทรวงสาธารณสุข. (2024). รายงานการติดตามสถานการณ์. สืบค้นเมื่อ 17 กันยายน 2024 จาก https://plancro.moph.go.th/subphem
กาญจน์ชนิษฐา เอกแสงศรี. (2558). ภาวะผู้นำในการจัดการวิกฤติและกลยุทธ์การบริหารจัดการน้ำเพื่อ บรรเทา ภัยพิบัติ สำหรับความมั่นคงของมนุษย์ยุคใหม่: กรณีศึกษาจังหวัดในพื้นที่ลุ่มน้ำภาคกลางของ ประเทศ ไทย. วารสารรัฐศาสตร์รีวิวมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์, 2(1), 97-110.
เทศบาลนครเชียงราย. (2024). รายงานสรุปสถานการณ์น้ำท่วมในเขตเทศบาลนครเชียงราย. สืบค้นเมื่อ 17 กันยายน 2024 จาก https://www.chiangraicity.go.th/data
ปุณิกา พรานพนัส และสุวรรณี แสงมหาชัย. (2563). การจัดการอุทกภัยในภาวะวิกฤตของไทย. วารสารรัชต์ภาคย์. 14(36), 68-79.
สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ. (2016). แผนบริหารจัดการน้ำและพืชผลทางการ เกษตร: ภาวะเศรษฐกิจไทยไตรมาสแรกของปี 2016 และแนวโน้มปี 2016. สืบค้นจาก https://www.nesdc.go.th/ewt_news.php?nid=5856&filename=index
สุริชัย หวันแก้ว และคณะ. (2007). สังคมวิทยาสึนามิ: ระบบการรับมือภัยพิบัติ. กรุงเทพฯ: สถาบันวิจัย สังคม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
อุทัย เลาหวิเชียร และ สุวรรณี แสงมหาชัย. การจัดการป้องกันและบรรเทาอุทกภัยในเขตกรุงเทพมหานคร. วารสารมหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต, 18(2), 111-127.
Aeksaengsee, K. (2015). The Crisis Management Leadership and Disaster Mitigation Water Management Strategy for the Modern Human Security: A Case Study of the Provinces in The Flood-Plane Areas of Central Thailand. Political Science Review Journal, Kasetsart University, 2(1), 97-110. [In Thai]
Chiang Rai Municipality. (2024). Summary report of flood situation in Chiang Rai Municipality. Retrieved September 17, 2024 from https://www.chiangraicity.go.th/data [In Thai]
Laohawichian, U., and Sangmahachai, S. (2017). Flood Prevention and Mitigation Management in Bangkok Metropolis. Kasem Bundit Journal, 18(2), 111-127. [In Thai]
Ministry of Public Health. (2024). Situation monitoring report. Retrieved September 17, 2024 from https://plancro.moph.go.th subphem. [In Thai]
Pranpanus, P. & Sangmahachai, S. (2020). Management of Flood Crisis of Thailand. Rajapark
Journal. 14(36): 68-79. [In Thai]
Wankaew, S. et al. (2007). Tsunami Sociology: Disaster Response System. Bangkok: Social
Research Institute, Chulalongkorn University [In Thai]
Wattanasan, P., & Puncreobutr, V. (2021). Conceptual Framework for Transferring Lessons Learned from Work for The Development of Best Practices. Turkish Online Journal of Qualitative Inquiry. 12 (7), 4848-4856.