การดูแลผู้ต้องขังหญิงตั้งครรภ์ระหว่างพิจารณาคดีในประเทศไทย: “สายใยแห่งชีวิตภายใต้กำแพงสูง”

ผู้แต่ง

  • Satreerat Saengwichian -

บทคัดย่อ

ผู้ต้องขังหญิงตั้งครรภ์ที่อยู่ระหว่างพิจารณาคดีเป็นกลุ่มที่มีความเปราะบางสูงและมีความต้องการเฉพาะด้านในหลายมิติ ทั้งด้านสุขภาพกาย สุขภาพจิต โภชนาการ ความสัมพันธ์ในครอบครัว และความมั่นคงทางสังคม ทำให้การดูแลกลุ่มนี้จำเป็นต้องดำเนินไปอย่างเป็นระบบและมีความละเอียดอ่อนเป็นพิเศษ โดยเฉพาะภายใต้บริบทของทัณฑสถานหญิงกลางซึ่งมีจำนวนผู้ต้องขังหญิงระหว่างพิจารณาคดีเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ภารกิจด้านสวัสดิการ การคุ้มครองสิทธิ และการดูแลสุขภาวะมีความซับซ้อนมากยิ่งขึ้น ทัณฑสถานหญิงกลางจึงได้พัฒนารูปแบบการทำงานให้ครอบคลุมทุกด้าน ทั้งการจัดตั้งศูนย์แม่และเด็ก การให้บริการฝากครรภ์ภายในเรือนจำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ การประสานการคลอดกับโรงพยาบาลภายนอก การจัดโภชนาการเฉพาะสำหรับหญิงตั้งครรภ์ การส่งเสริมสุขภาพผ่านกิจกรรมเฉพาะทาง รวมถึงการออกแบบสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อพัฒนาการของทารกควบคู่กับระบบการดูแลสุขภาพจิตโดยทีมสหวิชาชีพ นักสังคมสงเคราะห์มีบทบาทสำคัญในระบบการดูแลดังกล่าว โดยทำหน้าที่ประเมินความต้องการเฉพาะราย ประสานการดูแลร่วมกับทีมสหวิชาชีพ คุ้มครองสิทธิ และให้คำปรึกษาเพื่อช่วยให้ผู้ต้องขังสามารถปรับตัวต่อสถานการณ์การตั้งครรภ์ภายในเรือนจำได้อย่างเหมาะสม บทบาทเหล่านี้สอดคล้องกับมาตรฐานสิทธิมนุษยชนสากล แนวทางการปฏิบัติต่อผู้ต้องขังหญิง และกรอบกฎหมายไทยที่มุ่งรักษาศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของทั้งมารดาและเด็ก บทความนี้จึงนำเสนอถึงแนวทางการดูแลผู้ต้องขังหญิงตั้งครรภ์ระหว่างพิจารณาคดีของทัณฑสถานหญิงกลางผ่านการวิเคราะห์ตามมาตรฐานสากล กรอบกฎหมายไทย และการปฏิบัติจริงในบริบทของเรือนจำ ผลการวิเคราะห์ชี้ให้เห็นว่าการจัดระบบการดูแลแบบองค์รวมที่ตั้งอยู่บนหลักสิทธิมนุษยชนสามารถลดความเสี่ยงต่อสุขภาพกายและใจของผู้ต้องขังหญิงตั้งครรภ์และทารกได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังเป็นการยกระดับมาตรฐานงานราชทัณฑ์ของไทยให้สอดคล้องกับหลักความเป็นธรรม ความเท่าเทียม และการเคารพศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ อันเป็นรากฐานของสังคมที่ศิวิไลซ์และตระหนักถึงคุณค่าของชีวิตทุกชีวิตแม้จะอยู่ภายใต้ข้อจำกัดของการคุมขัง

เอกสารอ้างอิง

กรมราชทัณฑ์. (2560). พระราชบัญญัติราชทัณฑ์ พ.ศ. 2560. กรุงเทพฯ: กรมราชทัณฑ์.

กรมราชทัณฑ์. (2561). ระเบียบกรมราชทัณฑ์ว่าด้วยการดูแลผู้ต้องขังหญิงตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร พ.ศ. 2561. กรุงเทพฯ: กรมราชทัณฑ์.

กรมราชทัณฑ์. (2561). ระเบียบกรมราชทัณฑ์ว่าด้วยเด็กในความดูแลของผู้ต้องขัง พ.ศ. 2561. กรุงเทพฯ: กรมราชทัณฑ์.

สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา. (2546). พระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546. กรุงเทพฯ: สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา.

สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา. (2560). รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560. กรุงเทพฯ: สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา.

Alirezaei, S., & Latifnejad Roudsari, R. (2022). The needs of incarcerated pregnant women: A systematic review of literature. International Journal of Community Based Nursing and Midwifery, 10(1), 2–17. https://doi.org/10.30476/ijcbnm.2021.89508.1613

Center for Leadership Education in Maternal & Child Public Health. (2023). Alternatives to incarceration for pregnant & postpartum people: A summary of state and federal laws. University of Minnesota. https://mch.umn.edu/alternatives/

Thailand Institute of Justice. (n.d.). The Tokyo Rules. https://www.tijthailand.org/publication/detail/137

United Nations. (1955). Standard minimum rules for the treatment of prisoners.

United Nations. (2010). United Nations rules for the treatment of women prisoners and non-custodial measures for women offenders (the Bangkok Rules). https://www.unodc.org/documents/justice-and-prison- reform/Bangkok_Rules_ENG_22032015.pdf

United Nations. (2015). United Nations standard minimum rules for the treatment of prisoners (the Nelson Mandela Rules). https://www.unodc.org/documents/justice-and-prisonreform/Nelson_Mandela_Rules- E-ebook.pdf

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2025-12-30

รูปแบบการอ้างอิง

Saengwichian, S. (2025). การดูแลผู้ต้องขังหญิงตั้งครรภ์ระหว่างพิจารณาคดีในประเทศไทย: “สายใยแห่งชีวิตภายใต้กำแพงสูง”. วารสารสภาวิชาชีพสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย, 1(3). สืบค้น จาก https://so19.tci-thaijo.org/index.php/SWPCTH/article/view/2602