การบริหารงานตามหลักสุจริต 3 ของผู้บริหารเทศบาลตำบลนครขอนแก่น อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาสภาพการบริหารงานตามหลักสุจริต 3 ของผู้บริหารเทศบาลตำบลนครขอนแก่นอำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น 2) เพื่อศึกษาปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการบริหารงานตามหลักสุจริต 3 ของผู้บริหารเทศบาลตำบลนครขอนแก่นอำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น และ 3) เพื่อศึกษาแนวทางการบริหารงานตามหลักสุจริต 3 ของผู้บริหารเทศบาลตำบลนครขอนแก่น อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น เป็นการวิจัยการวิจัยเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ ประชากรที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ประชาชนผู้มีอายุตั้งแต่ 18 – 60 ปี ในพื้นที่อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น จำนวน 378 คน กลุ่มเป้าหมายผู้ให้ข้อมูลในการสัมภาษณ์ เลือกแบบเจาะจง ได้แก่ ผู้บริหารเทศบาลตำบลนครขอนแก่น อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น จำนวน 10 คน เครื่องมือใช้ได้แก่ แบบสอบถามและแบบสัมภาษณ์ สถิติที่ใช้ในการวิจัยได้แก่ สถิติการแจกแจงความถี่และร้อยละของผู้ตอบแบบสอบถาม วิเคราะห์โดยการนำเสนอเป็นตารางใช้สถิติค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การวิเคราะห์ถดถอยพหุคูณโดยใช้วิธีการคัดเลือกตัวแปรแบบเป็นลำดับขั้น ประกอบการอภิปรายผล การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงพรรณนาโดยคัดเลือก และจําแนกข้อมูล จัดระเบียบข้อมูลให้เป็นระบบ จัดทําบรรณาธิกรณ์ข้อมูล และวิเคราะห์ข้อมูล แล้วนําข้อมูลไปเขียนเป็นรายงาน
ผลการวิจัยพบว่า : 1) สภาพการบริหารงานตามหลักสุจริต 3 ของผู้บริหารเทศบาลตำบลนครขอนแก่นอำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น โดภาพรวมทุกด้าน อยู่ในระดับปานกลาง ( =3.04, S.D=.38) พิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ด้านการสั่งการ ด้านการวางแผน และด้านการควบคุม ตามลำดับ 2) ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการบริหารงานตามหลักสุจริต 3 ของผู้บริหารเทศบาลตำบลนครขอนแก่นอำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่นการ โดยรวมทุกด้าน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ .05 ได้แก่ ด้านการปกครองX5 ด้านการทำงานX3 ด้านความสัมพันธ์X1 ด้านการบริหารงานX2 ด้านการทำงานเป็นทีมX4 มีค่าสัมประสิทธิ์ของตัวพยากรณ์ในคะแนนดิบ (b) เท่ากับ .133, .255, .774, .910, -.376 ตามลำดับ และ 3) จำเป็นที่จะต้องมีแนวทางการบริหารงานตามหลักสุจริต 3 ของผู้บริหารการบริหารจัดการในการปฏิบัติหน้าที่อย่างจริงจัง จัดเตรียมแผนรองรับแนวทางการบริหารงานตามหลักสุจริต 3 ของผู้บริหารความเปลี่ยนแปลงในการปฏิบัติหน้าที่ในการบริหารจัดการ ที่มีการเปลี่ยนแปลงความสำคัญในการบริหารการจัดการที่ได้ทำไปแล้วนั้นมีความถูกต้องสมบูรณ์ ชี้แนะ และติดตามตรวจสอบการทำงานตามแผนหรือเป้าหมายที่กำหนดไว้ โดยใช้วิธีการวิเคราะห์แยกแยะปัญหาในการตัดสินใจ โดยคำนึงถึงวัตถุประสงค์ของการแก้ปัญหาแนวทางการบริหารงานตามหลักสุจริต 3 ของผู้บริหารอย่างเหมาะสมและให้เกิดประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
Article Details
References
กระทรวงศึกษาธิการ. (2537). การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนการสอนกลุ่มทักษะ. (คณิตศาสตร์) ระดับ
ประถมศึกษา. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ การศาสนา.
กัลยา วานิชย์บัญชา. (2560). การวิเคราะห์สถิติชั้นสูงด้วย SPSS for Window (พิมพ์ครั้งที่ 12). กรุงเทพฯ:
ห้างหุ้นส่วน จํากัด สามลดา.
พิภูษณ มากไชย และคณะ. (2559). การนำหลักสุจริต 3 ไปใช้ในการปฏิบัติงานของข้าราชการตำรวจ
สถานีรวจภูธรเมืองภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต. วารสารพุทธสังคมวิทยาปริทรรศน์ Journal of Buddhistic
Sociology, 1(2), 36 – 54.
นลพรรณ บุญฤทธิ์. (2558). ปัจจัยที่มีผลต่อประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานของบุคลากรองค์การบริหารส่วน
จังหวัดชลบุรี. วิทยานิพนธ์บริหารธุรกิจมหาบณั ฑิต, สาขาวิชาการจัดการสาธารณะ, วิทยาลัย
พาณิชยศาสตร์, มหาวิทยาลัยบูรพา.
วิราษ ภูมาศรี และคณะ. (2566). การสร้างเครือข่ายความเข้มแข็งในการต่อต้านทุจริต โดยใช้กิจกรรมและ
หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา ในจังหวัดเชียงใหม่. วารสารวิชาการวิทยาลัยบริหารศาสตร์, 6(1),
– 34.
วิสาร ปัญญชุณห์. (2564). รูปแบบการบริหารจัดการสำนักงานศึกษาธิการจังหวัด สู่สำนักงานคุณธรรม ความ
โปร่งใส. งานวิชาการ สังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ.
สุนันทา เลาหนันทน์. (2549). เอกสารการสอนการทางานเป็นทีม . กรุงเทพฯ: พิมพ์ครั้งที่3. แฮนด์เมคสติก
เกอร์แอนดีดีไซน์.
Yamane, Taro. (1973). Statistics an introductory analysis. New York Harper & Row.