แนวทางการบริหารงานตามหลักอปริหานิยธรรมขององค์การบริหาร ส่วนจังหวัดสกลนคร

Main Article Content

ดนัย ลามคำ

บทคัดย่อ

             การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ (1) เพื่อศึกษาสภาพการบริหารงานตามหลักอปริหานิยธรรม (2) เพื่อศึกษาปัจจัยที่ส่งผลต่อการบริหารงานตามหลักอปริหานิยธรรม และ (3) เพื่อศึกษาแนวทางการบริหารงานตามหลักอปริหานิยธรรมขององค์การบริหารส่วนจังหวัดสกลนคร เป็นการวิจัยเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ ผู้บริหาร บุคลากรองค์การบริหารส่วนจังหวัดสกลนคร จำนวน 359 คน และกลุ่มเป้าหมายได้แก่ ผู้บริหาร หัวหน้าฝ่ายองค์การปครองส่วนส่วนจังหวัดสกลนคร จำนวน 10 คน เป็นการวิจัยเชิงปริมาณและการวิจัยเชิงคุณภาพ โดยใช้สถิติค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การวิเคราะห์ถดถอยพหุคูณโดยใช้วิธีการคัดเลือกตัวแปรแบบเป็นลำดับ ประกอบการอภิปรายผล และการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงพรรณนาวิเคราะห์ ผลการวิจัยพบว่า : (1) สภาพการบริหารงานตามหลักอปริหานิยธรรมขององค์การบริหารส่วนจังหวัดสกลนคร โดยรวมอยู่ในระดับปานกลาง โดยเรียงลำดับจากมากไปหาน้อยได้ดังนี้ ด้านการควบคุมงาน ด้านการรวางแผนงานและด้านการปฏิบัติงาน ตามลำดับ (2) ปัจจัยที่ส่งผลต่อการบริหารงานตามหลักอปริหานิยธรรมขององค์การบริหารส่วนจังหวัดสกลนคร อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ได้แก่ ด้านพร้อมเพรียงกันประชุม (X2) ด้านมั่นประชุมกันเป็นประจำ (X1) ด้านการจัดการบำรุงและคุ้มครอง (X7) และด้านบำรุงรักษาสถานที่ (X6) มีค่าสัมประสิทธิ์ของตัวพยากรณ์ในคะแนนดิบ (b) เท่ากับ .322 .249 .240 และ .193 ตามลำดับ และ (3) จำเป็นจะต้องมีการประชุมเพื่อที่จะหาข้อสรุปในการทำงานและทุกครั้งที่ประชุมจะมีการขอความคิดเห็นจากบุคลากรในองค์กร มีการประชุมแต่ล่ะครั้ง จะมีการนัดกันก่อนที่จะมีการประชุมทุกครั้ง มีการตั้งกฎระเบียบใหม่ขึ้นมาเพื่อไม่ให้กฎระเบียบเดิมหายไป ผู้บริหารควรมีการชักชวนพนักงานเข้าวัด ฟังธรรม รักษาศีล การปฏิบัติงานไม่ยึดเรื่องเพศขอแค่ผลของการทำงานออกมาดีให้มีประสิทธิภาพ ก่อนที่จะเข้าไปทำงานทุกครั้งบุคลากรมีความนับถือต่อสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ มีการตอนรับที่ดี ใช้คำพูดจาที่ไพเราะน่าฟัง แสดงกิริยาที่ความอ่อนน้อม ถ่อมตนแก่ผู้อาวุโสเป็นอย่างมาก

Article Details

บท
บทความวิจัย

References

กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น. (2550). การวางแผนพัฒนา. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์ส่วนท้องถิ่น.

กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น. (2560). แบบประเมินประสิทธิภาพขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น(Local Performance Assessment : LPA) ประจำปี 2561. กรุงเทพฯ: กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น.

กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น. (2560). รายงานสรุปผลการประเมินประสิทธิภาพขององค์กรปกครอง

ส่วนท้องถิ่นประจำปี 2560. กรุงเทพฯ: กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น.

กัลยา วานิชย์บัญชา.(2560). การวิเคราะห์สถิติชั้นสูงด้วย SPSS for Window (พิมพ์ครั้งที่ 12). กรุงเทพฯ:

ห้างหุ้นส่วนจํากัด สามลดา.

เกียงไกร เจริญธนาวิวัฒน์. (2550). หลักพื้นฐานกฎหมายมหาชนว่าด้วยรัฐรัฐธรรมนูญและกฎหมาย (พิมพครั้ง

ที่ 3). กรุงเทพฯ: วิญญูชน.

โกวิทย์ พวงงาม. (2550). การปกครองท้องถิ่นไทย. กรุงเทพฯ: บริษัท สำนักพิมพ์วิญญูชน จำกัด.

เขมานันท์ ขบวนฉลาด. (2564). การประยุกต์ใช้หลักอปริหานิยธรรมเพื่อการบริหารจัดการขององค์การ

จินตวีร์ เกษมศุข. (2559). หลักการมีส่วนร่วมกับการพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืน. กรุงเทพสา่.าสมฯ: สำนักพิมพ์แห่ง

จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

จุไรวรรณ บินดุเหลม. (2562). ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับความตั้งใจคงอยู่ในงานของข้าราชการและลูกจ้างองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา. สารนิพนธ์หลักสูตรปริญญารัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์. บริหารส่วนตำบลประทัดบุ อำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์. วารสารมหาจุฬาคชสาร,12(1), 133 – 142.

บุญเพ็ง สิทธิวงษา. (2561). การมีส่วนร่วมในการส่งเสริมสุขภาพพระสงฆ์ในเขตการปกครองคณะสงฆ์ภาค 9. ดุษฎีนิพนธ์หลักสูตรรัฐประศาสนศาสตรดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลัยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ.

พระกฤษดา ฐิตธมฺโม (แก้วประยูร) และ กันตภณ หนูทองแก้ว. (2566). การใช้หลักอปริหานิยธรรมในการบริหารจัดการองค์การบริหารส่วนตำบลท่าโพธิ์ อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา. วารสารมณีเชษฐารามวัดจอมมณี 6(2), 211 – 227.

พระขจรศักดิ์ กิตฺติวุฑฺโฒ. (2562). การบริหารงานตามหลักอปริหานิยธรรมของเทศบาลนครตรัง จังหวัดตรัง. วารสารการบริหารและสังคมศาสตร์ปริทรรศน์, 2(2), 17 – 24.

Yamane, Taro. (1973). Statistics an introductory analysis. New York Harper & Row.