แนวทางการประยุกต์ใช้หลักอิทธิบาท 4 เพื่อการบริหารจัดการสถานศึกษา ในเขตพื้นที่จังหวัดอุดรธานี
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ (1) เพื่อศึกษาการประยุกต์ใช้หลักอิทธิบาท 4 เพื่อการบริหารจัดการสถานศึกษา (2) เพื่อศึกษาปัจจัยที่ส่งผลต่อการประยุกต์ใช้หลักอิทธิบาท 4 เพื่อการบริหารจัดการสถานศึกษา และ (3) เพื่อศึกษาแนวทางการประยุกต์ใช้หลักอิทธิบาท 4 เพื่อการบริหารจัดการสถานศึกษาในเขตพื้นที่จังหวัดอุดรธานี กลุ่มตัวอย่าง คือ บุคลากรทางการศึกษาในเขตพื้นที่จังหวัดอุดรธานี จำนวน 400 คน และกลุ่มเป้าหมายได้แก่ ผู้บริหารสถานศึกษาในพื้นที่จังหวัดอุดรธานี จำนวน 20 คน ผู้วิจัยใช้รูปการวิจัยแบบผสมผสาน ระหว่างการวิจัยเชิงคุณภาพและเชิงปริมาณ โดยใช้การวิจัยเชิงปริมาณใช้สถิติการแจกแจงความถี่ และร้อยละของผู้ตอบแบบสอบถาม วิเคราะห์โดยการนำเสนอเป็นตารางใช้สถิติค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การวิเคราะห์ถดถอยพหุคูณโดยใช้วิธีการคัดเลือกตัวแปรแบบเป็นลำดับ ประกอบการอภิปรายผล และการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงพรรณนาโดยคัดเลือกและจําแนกข้อมูล จัดระเบียบข้อมูลให้เป็นระบบ จัดทําบรรณาธิกรณ์ข้อมูล และวิเคราะห์ข้อมูล แล้วนําข้อมูลไปเขียนเป็นรายงานตามวัตถุประสงค์ของการศึกษาวิจัย ผลการวิจัยพบว่า : (1) การประยุกต์ใช้หลักอิทธิบาท 4 เพื่อการบริหารจัดการสถานศึกษาในเขตพื้นที่จังหวัดอุดรธานี โดยรวมอยู่ในระดับปานกลาง พิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ด้านกรุณา ด้านมุทิตา ด้านเมตตา และด้านอุเบกขา ตามลำดับ (2) ปัจจัยที่ส่งผลต่อการประยุกต์ใช้หลักอิทธิบาท 4 เพื่อการบริหารจัดการสถานศึกษาในเขตพื้นที่จังหวัดอุดรธานี อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ได้แก่ ด้านความเห็นชอบ (X1) ด้านความพยายามชอบ (X3) และด้านความมีสติชอบ (X4) โดยมีค่าสัมประสิทธิ์ตัวทำนายในคะแนนดิบ (b) เท่ากับ .254, .110, และ .068 ตามลำดับ และ (3) จำเป็นจะต้องมีการบูรณาการประยุกต์ใช้หลักอิทธิบาท 4 เพื่อการบริหารจัดการสถานศึกษา โดยการบูรณาการในทุก ๆ เรื่องที่มีความเกี่ยวข้องกับ การปฏิบัติหน้าที่ของผู้บริหารสถานศึกษา โดยให้ประชาชนนั้นมีส่วนร่วมในความรู้มีความเข้าใจในแนวทางการปฏิบัติโดยการประยุกต์ใช้หลักอิทธิบาท 4 เพื่อเป็นรูปแบบการปฏิบัติและใช้ในการดำเนินชีวิตของผู้บริหารสถานศึกษาที่จะประสบความสำเร็จในชีวิตอันจะส่งเสริมในเรื่องของการบริหารจัดการสถานศึกษาอย่างมีความสุขและยั่งยืน
Article Details

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
- บทความนี้
References
กัลยา วานิชย์บัญชา.(2560). การวิเคราะห์สถิติชั้นสูงด้วย SPSS for Window (พิมพ์ครั้งที่ 12). กรุงเทพฯ:
ห้างหุ้นส่วนจํากัด สามลดา.
กัญญลักษณ์ จันทรวิบูลย์. (2560). แนวทางส่งเสริมการบริหารงานวิชาการตามหลักอิทธิบาท 4 สำหรับโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการนนทบุรี. วิทยานิพนธ์ พธ.ม. (การบริหารการศึกษา). พระนครศรีอยุธยา : บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
บัณฑิตพงศ์ ท้าวทุมมา. (2560). การจัดระบบสารสนเทศเพื่อการประกันคุณภาพภายในของโรงเรียนช่องฟ้า
ซินเซิงวาณิชบำรุง จังหวัดเชียงใหม่. Veridian E-Journal Silpakorn University ฉบับภาษาไทย
สาขามนุษยศาสตร์สังคมศาสตร์และศิลปะ10(3), 1289-2204.
พระสมุห์พงศธร ปภงฺกโร. และคณะ (2564). การประยุกต์ใช้หลักอิทธิบาท 4 การบริหารงานของเทศบาล
กุดจับ อำเภอกุดจับ จังหวัดอุดรธานี. Journal of Modern Learning Development 6(4),
– 254.
พระอุทัย จารุธมฺโม (แก่นจำปา) และคณะ. (2566). แนวทางการพัฒนาสมรรถนะการบริหารงานตามหลักอิทธิบาท 4 ขององค์การบริหารส่วนตำบลพลับพลาไชย อำเภออู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี.วารสารวิชาการมหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี 13(1), 42 – 51.
พระมหาบรรจง ติสรโณ (ศรีสุข). (2560). ศึกษาการประยุกต์ใช้หลักอิทธิบาทธรรม 4 ในการจัดการเรียนการสอนของโรงเรียนปริยัติคุณรสวิทยา อำเภอเมืองสุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์. วิทยานิพนธ์นี้หลักสูตรปริญญาพุทธศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาพระพุทธศาสนา บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
มนตรี รอดแก้ว. และคณะ (2565). การพัฒนากิจกรรมการเรียนการสอนแบบโยนิโสมนสิการ: กรณีศึกษารายวิชารัฐศาสตร์ตามแนวพุทธศาสตร์ของนักศึกษาชั้นปีที่ 1 มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย วิทยาเขตมหาวชิราลงกรณราชวิทยาลัย. Journal of Political Science Mahamakut BuddhistUniversity, 3(3), 53-70.
รุ่งชัชดาพร เวหะชาติ. (2557). การนิเทศการศึกษา (พิมพ์ครั้งที่ 5). สงขลา: นำศิลป์โฆษณา. โรงพิมพ์มหาวิทยาลัยศิลปากร.
เรืองชัย จรุงศิรวัฒน์. (2553). เทคนิคการเขียนคู่มือการปฏิบัติงาน. สำนักงานอธิการบดี มหาวทิยาลัยขอนแก่น.
Yamane, Taro. (1973). Statistics an introductory analysis. New York Harper & Row.