การพัฒนาหลักสูตรฝึกอบรมสร้างนิทานในฝันผ่าน AI โดยใช้การจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสตอรีไลน์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาชั้นปีที่ 6 สังกัดเทศบาลนครพิษณุโลก

ผู้แต่ง

  • พิชญาภา ยวงสร้อย คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร
  • พีรเดช บุญรอด คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร

DOI:

https://doi.org/10.14456/ajld.2024.7

คำสำคัญ:

หลักสูตรฝึกอบรม, นิทาน, การจัดการเรียนรู้แบบสตอรีไลน์, ปัญญาประดิษฐ์, ความคิดสร้างสรรค์

บทคัดย่อ

         ผลการประของ PISA ประจำปี 2022 พบว่า นักเรียนทั่วโลกเกือบ 80% มีความคิดเชิงสร้างสรรค์ในระดับพื้นฐาน โดยสำหรับนักเรียนไทยประเทศไทยนักเรียนมากกว่าครึ่ง ประสบปัญหาการทำคะแนนเชิงความคิดสร้างสรรค์ระดับพื้นฐาน ทำให้ประเทศไทยได้คะแนนการคิดสร้างสรรค์อยู่ที่อันดับที่ 54 จาก 64 ประเทศ ดังนั้นหน่วยงานทางการศึกษาของประเทศไทยจำเป็นต้องหันมามองปัญหาและร่วมกันพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ของเด็กและผู้เรียนโดยการใช้วิธีการสอนและนวัตกรรมต่างๆ ที่จะช่วยพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ จากเหตุและผลดังกล่าวทำให้ผู้วิจัยสนใจที่ทำการวิจัยเพื่อพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาชั้นปีที่ 6 สังกัดเทศบาลนครพิษณุโลก โดยงานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1. สร้างและหาคุณภาพหลักสูตรฝึกอบรมสร้างนิทานในฝันผ่าน AI โดยใช้การจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสตอรีไลน์ 2. ทดลองใช้และศึกษาผลการใช้หลักสูตรฝึกอบรมที่สร้างขึ้น ดังนี้ 2.1) เปรียบเทียบความคิดสร้างสรรค์ภายหลังการฝึกอบรม  กับเกณฑ์ร้อยละ 75 2.2) ศึกษาความพึงพอใจของผู้เข้ารับการอบรมที่มีต่อการจัดกิจกรรมการฝึกอบรมกลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาชั้นปีที่ 6 ปีการศึกษา 1/2567 จำนวน 70 คน ได้มาจากการสุ่มอย่างง่ายโดยใช้วิธีการจับฉลาก โดยใช้โรงเรียนเป็นหน่วยสุ่ม เครื่องมือ   ที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1.หลักสูตรฝึกอบรมฯ 2.แผนการจัดกิจกรรม 3.แบบประเมินความคิดสร้างสรรค์ 4.แบบสอบถามความพึงพอใจ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล  ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย  ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และ t-test one sample 

         ผลการวิจัย พบว่า 1. หลักสูตรฝึกอบรมฯ มีองค์ประกอบ 4 องค์ประกอบ ได้แก่ 1) จุดมุ่งหมายของหลักสูตร 2) เนื้อหาสาระ 3) กิจกรรมการฝึกอบรม และ 4) การประเมิน โดยหลักสูตรฝึกอบรมมีคุณภาพอยู่ในระดับมากที่สุด 2. ผลการใช้หลักสูตรฝึกอบรมฯ พบว่า 2.1 ความคิดสร้างสรรค์ของนักเรียนหลังเรียนสูงกว่าเกณฑ์อย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ .05 2.2 ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดกิจกรรมการฝึกอบรมฯ พบว่า ในภาพรวมมีค่าอยู่ในระดับมาก

         สรุปผลการวิจัย หลักสูตรที่ผู้วิจัยพัฒนาขึ้นมาสามารถส่งเสริมให้ผู้เรียนมีความคิดสร้างสรรค์สูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด และนักเรียนมีความพึงพอใจต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้อยู่ในระดับมากที่สุด

เอกสารอ้างอิง

ณิชา พิทยาพงศกร. (2567, 21 มิถุนายน). อย่าแปลกใจ ทำไม ? เด็กไทย…ไม่สร้างสรรค์. https://theactive.net/read/thai-childrens-creativity/

บัญญัติ เศรษฐฐิติ, สุทัศน์ สุรวาณิช, อาทิตย์ พงษ์ทิพย์, ประณต มณีอินทร์, ธนกร พรมโคตรค้า, และ ธนัชยา เกณฑ์ขุนทด. (2566). เทคนิคการจัดการเรียนการสอนแบบ Story Line สไตล์ นวัตกรรมเกษตร. https://rkms.rsu.ac.th/outstanding66-1-4/.

พีรเดช บุญรอด. (2565). การพัฒนาหลักสูตรฝึกอบรมหัตถากาแฟ สำหรับนักศึกษาในระดับอุดมศึกษา [วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต ไม่ได้ตีพิมพ์]. มหาวิทยาลัยราชภัฎพิบูลสงคราม.

พิชามนญ์ ผิวอ่อนดี, และ วชิระ จันทราช. (2566). การใช้เทคนิค Storyline และนิทานพื้นบ้านเพื่อส่งเสริมทักษะการอ่านภาษาอังกฤษ เพื่อความเข้าใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1. วารสารศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร, 21(2), 261-277.

พิมพ์พันธ์ เดชะ. (2544). การเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสําคัญ : แนวคิด วิธีและเทคนิคการสอน. กรุงเทพฯ: เดอะมาสเตอร์กรุ๊ปแมนเนจเม้นท์.

วิชัย วงษ์ใหญ่, และ มารุต พัฒผล. (2564). การพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ของผู้เรียน Developing Creativity in Students. บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.

สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา. (2563). AI เพื่อพัฒนาการเรียนรู้. สำนักพิมพ์พริกหวานกราฟฟิค จำกัด: กรุงเทพฯ.

สุพพัต สกุลดี. (2561). การพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ของนักเรียนระดับอนุบาล 1 โดยผ่านการเล่านิทาน. [วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต ไม่ได้ตีพิมพ์]. มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์.

โสพิศ กันยะ, และ วิไลภรณ์ ฤทธิคุปต์. (2563). การพัฒนาการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบสตอรี่ไลน์ประกอบนิทานภาพ เพื่อส่งเสริมความสามารถด้านการฟังและด้านการพูดของเด็กปฐมวัยที่ใช้ภาษาไทยเป็นภาษาที่สอง. บัณฑิตศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย, 13(2), 47-62.

ไชยยศ เรืองสุวรรณ. (2533). เทคโนโลยีการศึกษา : ทฤษฎีและการวิจัย. กรุงเทพฯ: โอเดียนสโตร์.

Koukourikos, A., Karampiperis, P., & Panagopoulos, G. (2014). CREATIVE STORIES: A STORYTELLING GAME FOSTERING CREATIVITY. 11th International Conference on Cognition and Exploratory Learning in Digital Age. 135-142 ISBN: 978-989-8533-23-4

Phillips, L, G. (2018). Storytelling-The Seeds of Children's Creativity. September 2000Australasian Journal of Early Childhood, 25(3), 1-5. DOI:10.1177/183693910002500302

Taba, H. (1962). Curriculum Development: Theory and Practice. New York: Harcourt Brace Jovanovic.

Torrance, E.P. (1974). Torrance tests of creative thinking. Bensenville, IL: Scholastic Testing Service, Inc.

TruePlookpanya. (2566). ทักษะความคิดสร้างสรรค์. https://www.trueplookpanya.com/knowledge/content/93420-careeroverview-careerdevelopment-#google_vignette

Tyler, R. W. (1949). Basic Principles of Curriculum and Instruction. Chicago:The university of Chicago press.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2024-12-12

รูปแบบการอ้างอิง

ยวงสร้อย พ., & บุญรอด พ. (2024). การพัฒนาหลักสูตรฝึกอบรมสร้างนิทานในฝันผ่าน AI โดยใช้การจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสตอรีไลน์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาชั้นปีที่ 6 สังกัดเทศบาลนครพิษณุโลก. วารสารวิชาการเพื่อพัฒนาท้องถิ่น, 3(2), 1–14. https://doi.org/10.14456/ajld.2024.7