ผลการใช้ Platform Social Telecare ในการจัดการรายกรณี ผู้ป่วยกลุ่มเปราะบางของนักสังคมสงเคราะห์ โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ
คำสำคัญ:
แพลตฟอร์มโซเชียลเทเลแคร์, นักสังคมสงเคราะห์, โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติบทคัดย่อ
โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ได้มีการนำ Platform Social Telecare เข้ามาปรับใช้ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อวิเคราะห์ผลการใช้ Platform Social Telecare และการจัดบริการดูแลทางสังคม ผู้ป่วยกลุ่มเปราะบาง ผลการดำเนินโครงการ พบว่า Platform Social Telecare มีการบันทึกข้อมูล จำนวน 139 ราย พบว่า เป็น ชาย ร้อยละ 53 หญิง ร้อยละ 47 สัญชาติไทยมากที่สุด ร้อยละ 93 ส่วนใหญ่อายุ 11 – 20 ปี ร้อยละ 36 รองลงมา อายุ 61 – 70 ปี ร้อยละ 32 ส่วนใหญ่ผู้ป่วยมีสิทธิบัตรหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง) ร้อยละ 78 ผู้ป่วย long term care พบมากที่สุดร้อยละ 30 ผู้ป่วยมะเร็งและระยะท้าย และผู้ป่วยทั่วไป ร้อยละ 24 ผู้ป่วยที่ถูกกระทำความรุนแรง (OSCC) ร้อยละ 9 ผู้มีปัญหาสุขภาพจิตและจิตเวช ลักษณะปัญหาทางสังคมจากการใช้ Platform Social Telecare พบ 5 ปัญหาหลัก 1) ปัญหาทางการเงิน 2) ปัญหาการประกอบอาชีพ 3) ปัญหาต่อการดูแลสุขภาพของผู้ป่วย 4) ปัญหาภาระในการดูแลผู้สูงอายุ/มีคนผู้พิการในครอบครัว 5) ปัญหาความสัมพันธ์ระหว่างเครือญาติ
โดยนักสังคมสงเคราะห์ทางการแพทย์ได้ใช้เครื่องมือ Platform Social Telecare (PST) จำนวน 3 เครื่องมือเพิ่มเติมในการประเมินผู้ป่วยและครอบครัวในบางราย ได้แก่ 1) เครื่องมือประเมินความพร้อมของครอบครัว (Family Readiness Assessment : F.R.A.) ในผู้ป่วยจำนวน 15 ราย หากครอบครัวมีระดับความพร้อมน้อย นักสังคมสงเคราะห์จะใช้วิธีการ Family Therapy/Family Counseling หากครอบครัวมีระดับความพร้อมปานกลาง นักสังคมสงเคราะห์จะใช้วิธีการ Counseling หากครอบครัวมีระดับความพร้อมมาก นักสังคมสงเคราะห์จะใช้วิธีการ Psycho – Social Support และหากครอบครัวมีระดับความพร้อมมากที่สุด นักสังคมสงเคราะห์จะใช้วิธีการ Psycho – Social Education 2) การใช้เครื่องมือประเมินการดูแลสุขภาพจิตตนเอง (Mental Self Care Assessment: M.S.C.A.) โดยส่วนใหญ่จะใช้ในกลุ่มผู้ป่วยที่เตรียมความพร้อมในการปลูกถ่ายอวัยวะ ร้อยละ 60 ของผู้ป่วยที่ได้รับการประเมิน สามารถดูแลสุขภาพจิตได้ในระดับมาก
มีเพียงร้อยละ 20 ของผู้ป่วยที่ได้รับการประเมิน สามารถดูแลสุขภาพจิตได้ในระดับปานกลาง โดยในทั้งสองระดับ นักสังคมสงเคราะห์จะใช้วิธีการเสริมพลังอำนาจ (Empowerment), การให้ความรู้การดูแลสุขภาพจิตตนเอง (Education) , และการให้การปรึกษา (Counseling) ในการดำเนินการกับผู้ป่วย เพื่อให้ผู้ป่วยมีพลังใจในการใช้ชีวิต และสามารถจัดการกับปัญหาได้ 3) การใช้เครื่องมือในการประเมินและวินิจฉัยปัญหาทางสังคมอย่างเป็นระบบ เครื่องมือ S.D.M.A และแพลตฟอร์ม Social Telecare ช่วยสร้างความน่าเชื่อถือของคำวินิจฉัยทางสังคมในกระบวนการประเมินและวินิจฉัยปัญหาทางสังคม ซึ่งเป็นกระบวนการที่ต้องประมวลข้อมูลทางสังคมของผู้ป่วยมีความหลากหลายซับซ้อน บางปัญหามีการซ้อนทับและส่งผลต่อกัน ทำให้แพทย์หรือสหวิชาชีพอื่น เห็นมิติทางสังคมที่เป็นธรรมชาติของปัญหาได้อย่างแท้จริง จนนำไปสู่การปรับแผนการรักษาให้สอดคล้องกับข้อจำกัดของผู้ป่วยและการรักษามีประสิทธิภาพมากขึ้น
นอกจากนี้ยังมีการจัดประชุมเชิงปฏิบัติการส่งผลให้ภาคีเครือข่ายได้ความรู้ ความเข้าใจ การใช้ Platform Social Telecare ตามมาตรฐาน PDPA รวมถึงการประชุม Case Conferences ทางไกลในการช่วยเหลือผู้ป่วย และยังพบ ความท้าทายและโอกาสในการพัฒนาการเชื่อมโยงข้อมูลระหว่าง Platform Social Telecare ไปยังระบบต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง ซึ่งผลลัพธ์จากโครงการสามารถนำไปสู่การพัฒนานโยบายด้านสาธารณสุขและสวัสดิการสังคมทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับประเทศ นอกจากนี้ ยังช่วยพัฒนาทักษะและความเชี่ยวชาญของบุคลากรในการใช้เทคโนโลยีและการประเมินปัญหาทางสังคมผ่าน Platform Social Telecare ซึ่งจะแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการปรับตัวเพื่อตอบสนองต่อปัญหาสังคมที่ซับซ้อนและเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา เป็นต้นแบบของการใช้นวัตกรรมเพื่อแก้ไขปัญหาสังคมและสุขภาพในยุคดิจิทัล
References
โครงการการพัฒนาและเสริมสมรรถนะกลไกและเครือข่ายการดูแลทางสังคมของนักสังคมสงเคราะห์และสหวิชาชีพเพื่อสนับสนุนระบบบริการสุขภาพปฐมภูมิเพื่อขยายผลการทำงานในระดับพื้นที่ สภาวิชาชีพสังคมสงเคราะห์
คู่มือการใช้งานระบบ Social Telecare (ปรับปรุงครั้งล่าสุด 26 ธันวาคม 2566) สภาวิชาชีพสังคมสงเคราะห์
แผนพัฒนาสภาวิชาชีพสังคมสงเคราะห์ฉบับที่ 2 (พ.ศ. 2567 - 2569). สภาวิชาชีพสังคมสงเคราะห์
ประกาศสภาวิชาชีพสังคมสงเคราะห์ เรื่องมาตรฐานการให้บริการของ ผู้ประกอบวิชาชีพสังคมสงเคราะห์ พ.ศ.2564. ราชกิจจานุเบกษา. เล่ม 138 ตอนพิเศษ 144ง. หน้า 34-37 (30 มิถุนายน 2564
จตุรงค์ บุณยรัตนสุนทร ระพีพรรณ คำหอม เยาวเรศ คํามะนาด และทองศิริ ก่ำแดง. การสร้างคุณค่าและสมรรถนะหลักนักสังคมสงเคราะห์วิชาชีพ. วารสารสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ 2564; 29 (1) : 294 -328.
โสภา อ่อนโอภาส. (2555). การจัดการรายกรณีทางสังคมสงเคราะห์ ( Social work case management ). https://www.gotoknow.org/posts/36246#google_vignette
นัฐยา พานิชย์ดี. (2023). การพัฒนาระบบบริการแพทย์ทางไกลคลินิกเฉพาะโรค (Telemedicine) โรงพยาบาลกาฬสินธุ์. วารสารวิชาการทางการพยาบาลและวิทยาศาสตร์สุขภาพ, 3(2), 127-142.
สภาวิชาชีพสังคมสงเคราะห์. (ร่าง) มาตรฐานการให้บริการของผู้ประกอบวิชาชีพสังคมสงเคราะห์ [อินเทอร์เน็ต]. กรุงเทพมหานคร: ม.ป.ท.; 2563. [เข้าถึงเมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2564]. เข้าถึงได้จาก http://intranet.dop.go.th/intranet_older/fls/fls_uploads/52885/ขอความเห็นเรื่อง(ร่าง)มาตรฐานการให้บริการของผู้ประกอบวิชาชีพสังคมสงเคราะห์.pdf
Downloads
เผยแพร่แล้ว
How to Cite
ฉบับ
บท
License
Copyright (c) 2025 วารสารสภาวิชาชีพสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
Journal of JSWPCT is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International (CC BY-NC-ND 4.0) licence, unless otherwise stated. Please read our Policies page for more information