แนวทางการพัฒนาบทบาทของพระสงฆ์ในจังหวัดสุโขทัย ตามหลักการจัดการองค์การยุคใหม่

Main Article Content

พระครูโอภาสธรรมรักษ์ (ชินกร เจียระนัย)

บทคัดย่อ

            การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อ 1) เพื่อศึกษาบทบาทแนวทางการพัฒนาบทบาทของพระสงฆ์ในจังหวัดสุโขทัยตามหลักการจัดการองค์การยุคใหม่ 2) เพื่อศึกษาระดับแนวทางการพัฒนาบทบาทของพระสงฆ์ในจังหวัดสุโขทัยตามหลักการจัดการองค์การยุคใหม่ 3) เพื่อเสนอแนะแนวทางการพัฒนาบทบาทของพระสงฆ์ในจังหวัดสุโขทัยตามหลักการจัดการองค์การยุคใหม่


            วิธีการดำเนินการวิจัย การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยแบบผสม (Mixed Methods Research) ระหว่างการวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative research) และการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) โดยการใช้แบบสอบถาม (Questionnaire) และการสัมภาษณ์เชิงลึก (In-depth Interview) กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ จำนวน 20 รูป/คน ประกอบด้วยพระสงฆ์ที่เชี่ยวชาญและมีองค์ความรู้เกี่ยวกับ  แนวทางการพัฒนาบทบาทของพระสงฆ์ในเขตจังหวัดสุโขทัยตามหลักการจัดการองค์การยุคใหม่


          ผลการวิจัยพบว่า


          ด้านการศึกษาวิเคราะห์แนวทางการพัฒนาบทบาทของพระสงฆ์ในจังหวัดสุโขทัยตามหลักการจัดการองค์การยุคใหม่ตลอดจนระดับแนวทางทางการพัฒนาบทบาทของพระสงฆ์ในจังหวัดสุโขทัยตามหลักการจัดการองค์การยุคใหม่


  1. การศึกษาแนวทางการพัฒนาบทบาทของพระสงฆ์ในจังหวัดสุโขทัยเน้นให้ความสำคัญในด้านการศึกษาทางปริยัติธรรมแผนกบาลีศึกษา เช่น โครงการ 1 ตำบล 1 มหาเปรียญ และแนวทางการพัฒนาในด้านการศึกษาคณะสงฆ์เป็นไปในทางที่ดี ทำให้พระสงฆ์สามเณรได้รับการศึกษาทั้งทางโลกและทางธรรมอย่างทั่วถึง

  2. ด้านบูรณาการยุคใหม่ที่ส่งผลต่อกระบวนการแนวทางการพัฒนาบทบาทของพระสงฆ์ให้มีความสะดวกสบายในการเผยแพร่ธรรมะทางเทคโนโลยีและประชาชนสามารถร่วมบุญได้อย่างทั่วถึงโดยการใช้เทคโนโลยีทำให้พุทธศาสนิกชนเข้าถึงธรรมะได้ง่ายทุกที่ทุกเวลา ซึ่งเป็นการตอบรับที่ดีทั้งความร่วมมือจากคณะสงฆ์ทุกฝ่ายเป็นอย่างดี

  3. การจัดแข่งขันด้านการบริหารของคณะสงฆ์ ตำบลแต่ละอำเภอ โดยเน้นการศึกษาเป็นหลัก เช่นด้านความรู้ความสามารถ จัดให้มีการอบรม เช่นค่ายพุทธบุตร และการศึกษาพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์ ไม่ว่าจะเป็นการเรียนรู้ พระธรรมเทศนาขั้นพื้นฐาน เพื่อการเติบโตในอนาคตต่อไป และมีการโฆษณาประชาสัมพันธ์ผ่านออนไลน์ ผสมผสานแบบเดิม และแบบออนไลน์เป็นต้น

  4. มีการส่งเสริมแนะนำแนะแนวให้ผู้มีความรู้ความสามารถ ต่อยอดเข้าถึงพระธรรมได้ในระดับต้น จนถึงระดับสูงได้ โดยจัดโครงการอบรมการใช้สื่อออนไลน์ อย่างมีประสิทธิภาพ ให้ทันยุคทันสมัยตามสถานการณ์

  5. แนวทางการพัฒนาบทบาท ของพระสงฆ์ ตามหลักการจัดการองค์การยุคใหม่ มีหลักการพัฒนาให้สอดคล้องกับยุคสมัย ทำให้พระสงฆ์ต้องศึกษาหาความรู้เพิ่มขึ้น เพื่อนำไปใช้ในการเผยแผ่ธรรมะให้ทันกับยุคสมัย ส่วนพระสงฆ์ที่สูงอายุยังขาดความรู้ความเข้าใจในด้านเทคโนโลยีทางคณะสงฆ์จัดโครงการส่งเสริม และสนับสนุนให้มีการศึกษา ด้านเทคโนโลยีมากขึ้น

  6. ส่งเสริมให้พระสงฆ์ศึกษาด้านกฎระเบียบของสงฆ์เพิ่มเติม ตามหลักการจัดการองค์การยุคใหม่ เพื่อให้มีความรู้ความเข้าใจ ในข้อกฎหมายมากยิ่งขึ้น แต่ยังขาดทุนทรัพย์ ที่จะสนับสนุน เช่นอุปกรณ์ บุคลากร ที่จะส่งเสริมและถ่ายทอดความรู้ให้กับพระสงฆ์ไม่เพียงพอ เป็นต้น

Article Details

บท
บทความวิจัย

References

กัลยา วานิชย์บัญชา.(2560). หลักสถิติ. พิมพ์ครั้งที่7.กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย.

ธัศฐ์ชาพัฒน์ ยุกตานนท์. (2565). “กระบวนการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทโดยพุทธสันติวิธี ของศาลเยาวชนและ

ครอบครัวกลาง”. ดุษฎีนิพนธ์พุทธศาสตรดุษฎีบัณฑิต บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหา

จุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.

ธัศฐ์ชาพัฒน์ ยุกตานนท์. (2565). การศึกษาเรื่องปัจจัยที่มีผลต่อผลสัมฤทธิ์ของการเรียนการสอนแบบ

ออนไลน์ภายใต้สถานการการแพร่ของเชื้อไวรัส COVID-1. วารสารสันติศึกษาปริทรรศน์ มจร

(2), 510-565.

พระประวิทย์ ธมฺมวโร (บุญเต็ม). (2562). บทบาทพระสงฆ์กับการมีส่วนร่วมในการพัฒนาชุมชน. บทความวิชาการ สาขาวิชาพระพุทธศาสนา วิทยาลัยสงฆ์นครพนม มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.

พระมหาพงศ์ทราทิตย์ ก้องเสียง. (2563). บทบาทที่พึงประสงค์ของพระสงฆ์ไทยในปัจจุบันและอนาคต. วารสารสังคมศาสตร์และมานุษยวิทยาเชิงพุทธ 5(1), 4.

Likert, R. (1932). A technique for the measurement of attitude. Archives of Psychology

: 1-55.

Taro Yamane. (1973). Statistics: an introductory analysis. New York: New York:

Harper & Row.