จริยธรรมการตีพิมพ์ Publication Ethics

  1. จริยธรรมของบรรณาธิการ (Editor)

1.1 บรรณาธิการ มีหน้าที่พิจารณาตีพิมพ์เผยแพร่ผลงานบทความวิจัยที่ตรงวัตถุประสงค์และขอบเขตวารสาร มีรูปแบบและการอ้างอิงที่ถูกต้องตามที่วารสารกำหนด มีระเบียบวิธีวิจัยที่ถูกต้อง ความเหมาะสมและความเป็นไปได้ของผลการวิจัย และให้ผลที่น่าเชื่อถือ โดยนำผลของการวิจัยที่มีนวัตกรรมความแปลกใหม่ น่าสนใจ มาเป็นตัวชี้นำว่า สมควรตีพิมพ์เผยแพร่หรือไม่

1.2 บรรณาธิการ มีหน้าที่พิจารณาตีพิมพ์เผยแพร่ผลงานบทความวิชาการ หรืออื่นๆ ที่ตรงวัตถุประสงค์และขอบเขตวารสาร มีรูปแบบและการอ้างอิงที่ถูกต้องตามที่วารสารกำหนด ที่มีกระบวนการศึกษาค้นคว้าเอกสารต่างๆ ที่ถูกต้องชัดเจน วิธีการวิจัย และให้ผลที่น่าเชื่อถือ โดยนำผลของการวิเคราะห์และสังเคราะห์ที่มีนวัตกรรมความแปลกใหม่ น่าสนใจ มาเป็นตัวชี้นำว่า สมควรตีพิมพ์เผยแพร่หรือไม่

1.3 บรรณาธิการ จะต้องไม่ตีพิมพ์บทความที่เคยตีพิมพ์ที่อื่นมาแล้ว โดยต้องมีการตรวจสอบการคัดลอกผลงานผู้อื่น (Plagiarism) อย่างจริงจัง และใช้โปรแกรมซอฟต์แวร์ตรวจจับที่เชื่อถือได้ เพื่อให้แน่ใจว่า บทความที่จะตีพิมพ์ในวารสารไม่มีการคัดลอกผลงานของผู้อื่น และหากตรวจพบการคัดลอกผลงานของผู้อื่น จะต้องหยุดกระบวนการพิจารณา และติดต่อผู้นิพนธ์บทความหลักทันที เพื่อขอคำชี้แจง เพื่อประกอบการ “ตอบรับ” หรือ “ปฏิเสธ” การตีพิมพ์บทความดังกล่าว

1.4 หากบรรณาธิการตรวจพบว่า บทความมีการลอกเลียนบทความอื่นโดยมิชอบ หรือมีการปลอมแปลงข้อมูล ซึ่งสมควรถูกถอดถอนแล้ว แต่ผู้นิพนธ์ปฏิเสธที่จะถอนบทความ บรรณาธิการสามารถดำเนินการถอนบทความได้ โดยไม่ต้องได้รับอนุญาตหรือความยินยอมจากผู้นิพนธ์ ซึ่งถือเป็นสิทธิและความรับผิดชอบต่อบทความของบรรณาธิการ

1.5 บรรณาธิการ มีหน้าที่พิจารณาคุณภาพของบทความ เพื่อตีพิมพ์เผยแพร่ในวารสารสหวิทยาการศึกษาครุศาสตร์ที่ตนรับผิดชอบ และต้องคัดเลือกบทความมาตีพิมพ์หลังจากผ่านกระบวนการพิจารณาคุณภาพของบทความจากผู้ทรงคุณวุฒิแล้ว โดยพิจารณาจากความชัดเจน และความสอดคล้องของเนื้อหาบทความกับวัตถุประสงค์และขอบเขตของวารสารสหวิทยาการศึกษาครุศาสตร์เป็นสำคัญ และจะต้องมีองค์ความรู้ที่สะท้อนมุมมอง แนวคิดเชิงทฤษฎีที่ได้จากประสบการณ์ การสังเคราะห์เอกสาร หรืองานวิจัย มุ่งเน้นการนำเสนอแนวคิดทฤษฎีใหม่ รวมถึงแบบจำลองเชิงแนวคิด (Conceptual Model) ที่ช่วยเสริมสร้างความเข้าใจอันจะนำไปสู่การวิจัยในหัวข้อวิชาการที่สำคัญต่อไป

1.6 บรรณาธิการ จะต้องไม่ขัดแย้งหรือไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อนกับผู้นิพนธ์ และผู้ทรงคุณวุฒิ

1.7 บรรณาธิการ จะต้องไม่นำข้อมูลบางส่วน หรือทุกส่วนของบทความไปเป็นผลงานของตนเอง

1.8 บรรณาธิการ จะต้องไม่เปิดเผยข้อมูลของผู้นิพนธ์บทความ และผู้ทรงวุฒิพิจารณาคุณภาพของบทความแก่บุคคลอื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องในระหว่างขั้นตอนการประเมินบทความ

1.9 บรรณาธิการ จะออกหนังสือตอบรับการตีพิมพ์บทความได้นั้น ต่อเมื่อผู้นิพนธ์ได้แก้ไขบทความถูกต้องครบถ้วนตามคำแนะนำของผู้ทรงคุณวุฒิเรียบร้อยแล้วเท่านั้น

 

 

  1. จริยธรรมของผู้ทรงคุณวุฒิพิจารณาบทความ (Reviewer)

2.1 ผู้ทรงคุณวุฒิพิจารณาบทความ ตระหนักว่า หลังจากได้รับบทความจากบรรณาธิการวารสารสหวิทยาการศึกษาครุศาสตร์ ตนเองอาจมีผลประโยชน์ทับซ้อนกับผู้นิพนธ์บทความ ที่ทำให้ไม่สามารถให้ข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะต่างๆ อย่างอิสระได้ ผู้ทรงคุณวุฒิพิจารณาบทความ ควรแจ้งให้บรรณาธิการวารสารทราบ และปฏิเสธการพิจารณาบทความดังกล่าว

2.2 ผู้ทรงคุณวุฒิพิจารณาบทความ ต้องรักษาความลับและไม่เปิดเผยข้อมูลของบทความ ที่ทางวารสารสหวิทยาการศึกษาครุศาสตร์ส่งมาเพื่อพิจารณา แก่บุคคลอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องในระหว่างขั้นตอนของการประเมินบทความ

2.3 ผู้ทรงคุณวุฒิพิจารณาบทความ ควรพิจารณาบทความในสาขาวิชาที่ตนมีความเชี่ยวชาญ โดยพิจารณาความสำคัญของเนื้อหาในบทความที่มีต่อสาขาวิชานั้นๆ คุณภาพของการวิเคราะห์ และความเข้มข้นของผลงานหรือระบุผลงานวิจัยที่สำคัญๆ และสอดคล้องกับบทความที่กำลังพิจารณา

2.4 ผู้ทรงคุณวุฒิพิจารณาบทความ ควรให้คำแนะนำเกี่ยวกับระเบียบวิธีวิจัยน่าเชื่อถือและยอมรับได้ ข้อค้นพบที่น่าสนใจ วิธีการนำเสนอข้อมูล ความเหมาะสมและความเป็นไปได้ของผลการวิจัย ความสอดคล้องของแต่ละส่วนในบทความ ควรให้คำแนะนำเกี่ยวกับวรรณกรรมที่ผู้นิพนธ์ไม่ได้รวมไว้ด้วย และไม่ควรใช้การตัดสินส่วนบุคคลที่ไม่มีหลักฐานสนับสนุนเป็นเกณฑ์ในการพิจารณาบทความ

2.5 เมื่อผู้ทรงคุณวุฒิพิจารณาบทความ พบว่า มีส่วนใดของบทความ ตรวจพบการลอกเลียนแบบ ที่มีความเหมือนกัน หรือซ้ำซ้อนกับผลงานอื่นๆ ผู้พิจารณาบทความต้องแจ้งให้บรรณาธิการทราบทันที

2.6 ผู้ทรงคุณวุฒิพิจารณาบทความ จะต้องไม่อ้างสิทธิ์บทความที่ส่งมาพิจารณาในบางส่วนหรือทั้งหมดเป็นของตนเอง

  1. จริยธรรมของผู้นิพนธ์ (Author)

3.1 ผู้นิพนธ์ จะต้องตระหนัก มั่นใจ และต้องรับรองว่า บทความต้นฉบับที่ตนส่งมาพิจารณานั้น ตนไม่เคยส่งไปยังวารสารอื่นๆ หรือได้รับการตีพิมพ์เผยแพร่ที่ใดมาก่อน และจะไม่ส่งต้นฉบับบทความซ้ำซ้อนกับวารสารอื่นๆ

3.2 ผู้นิพนธ์ จะต้องคำนึงถึงจริยธรรมการวิจัย จะต้องไม่ละเมิดหรือคัดลอกผลงานของผู้อื่นมาเป็นของตนเอง

3.3 ผู้นิพนธ์ที่มีชื่อในบทความ จะต้องเป็นผู้มีส่วนในการจัดทำบทความหรือมีส่วนในการดำเนินการวิจัย

3.4 ผู้นิพนธ์ จะต้องปรับแก้ไขบทความให้ถูกต้องตามรูปแบบของวารสารวารสารสหวิทยาการศึกษาครุศาสตร์ ในหัวข้อ “แนวปฏิบัติสำหรับผู้นิพนธ์” ที่ระบุไว้ในเว็บไซต์วารสาร

3.5 หากผู้นิพนธ์มีการนำผลงาน ภาพ หรือตาราง มาใช้ในบทความของตนเอง ผู้นิพนธ์จะต้องอ้างอิงอย่างถูกต้อง พร้อมระบุแหล่งที่มาอย่างชัดเจน ผู้นิพนธ์บทความจะต้องรับผิดชอบต่อการฟ้องร้องทางกฎหมายแต่เพียงผู้เดียว (หากมีการฟ้องร้อง จะเป็นความรับผิดชอบของผู้นิพนธ์บทความแต่เพียงผู้เดียว ทางวารสารสหวิทยาการศึกษาครุศาสตร์ จะไม่รับผิดชอบใดๆ ทั้งสิ้น)

3.6 ผู้นิพนธ์ จะต้องตรวจสอบความถูกต้องของรายการเอกสารอ้างอิงในบทความ ทั้งในแง่ของรูปแบบและเนื้อหา และไม่ควรนำเอกสารวิชาการที่ไม่ได้อ่านมาอ้างอิง หรือใส่ไว้ในเอกสารอ้างอิงท้ายบทความ และควรอ้างอิงเอกสารที่น่าเชื่อถือชัดเจน เท่าที่จำเป็นอย่างเหมาะสม

3.7 ผู้นิพนธ์ จะต้องไม่รายงานข้อมูลที่คลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง ไม่ว่าจะเป็นการสร้างข้อมูลเท็จ หรือการปลอมแปลง บิดเบือน รวมไปถึงการตกแต่ง หรือ เลือกแสดงข้อมูลเฉพาะที่สอดคล้องกับข้อสรุป

3.8 ผู้นิพนธ์ จะต้องปรับแก้ไขเพิ่มเติมบทความตามผลประเมินจากผู้ทรงคุณวุฒิพิจารณาบทความ และกองบรรณาธิการให้แล้วเสร็จภายในวันและเวลาที่กำหนด

          3.9 ผู้นิพนธ์ จะต้องระบุแหล่งที่มาของเงินทุนวิจัย (ถ้ามี) รวมถึงความขัดแย้งทางผลประโยชน์ใดๆ ที่เกี่ยวข้อง

3.10 ผู้นิพนธ์ ควรแจ้งคำขอบคุณเมื่อได้รับความยินยอมจากผู้มีส่วนสนับสนุนที่เกี่ยวข้องแล้วเท่านั้น

3.11 ผู้นิพนธ์ ไม่ควรอ้างอิงเอกสารที่ถูกถอดถอนออกไปแล้ว เว้นแต่ข้อความที่ต้องการสนับสนุนนั้น เป็นข้อความที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการถอดถอน จะต้องระบุไว้ในข้อความอ้างอิงดังกล่าวว่า "บทความที่ถูกเพิกถอน"