การวิเคราะห์ข้อถกเถียงว่าด้วยเรื่อง ‘สิ่งที่ว่างไม่อาจใช้พิสูจน์สิ่งใดได้’
Main Article Content
บทคัดย่อ
หนึ่งในหัวใจของปรัชญามัธยมกะคือแนวคิดเรื่อง “ความว่าง” (ศูนยตา) ซึ่งท่านนาคารชุนได้นำเสนอไว้อย่างลึกซึ้งในคัมภีร์ วิครหวยวรัตตนี และ ศูนยตาสัปตติ โดยเน้นว่า สรรพสิ่งทั้งหลายไม่มีการมีอยู่โดยเนื้อแท้ (สวภาวะ) แต่เกิดขึ้นและดำรงอยู่โดยอิงอาศัยเหตุปัจจัย (ประตีตยสมุปปาทะ) บทความนี้มุ่งสำรวจการวิเคราะห์และโต้แย้งของท่านนาคารชุนต่อแนวคิดสวภาวะ โดยชี้ให้เห็นว่า แม้คำพูดหรือแนวคิดทางปรัชญาเองจะไม่มีการมีอยู่โดยเนื้อแท้ แต่ก็ยังสามารถทำหน้าที่แสดงความจริงได้ เพราะอาศัยเหตุปัจจัยและความสัมพันธ์เชิงอิงอาศัย ตัวอย่างการโต้แย้งผ่านแนวคิดเรื่องเหตุและผล แสดงให้เห็นว่าการมีอยู่โดยเนื้อแท้ไม่สามารถอธิบายการเกิดขึ้นของสิ่งต่าง ๆ ได้อย่างสมเหตุสมผล ปรัชญามัธยมกะจึงนำเสนอ “ความว่าง” ไม่ในความหมายของการปฏิเสธการมีอยู่ แต่ในฐานะเครื่องมือที่ช่วยชี้ให้เห็นถึงธรรมชาติที่ปราศจากแก่นสารของสรรพสิ่ง บทความยังแสดงให้เห็นว่าความว่างมิได้เท่ากับความไม่มี แต่คือการเปิดโอกาสให้เข้าใจ “ความเป็นจริงสูงสุด” ผ่านความสัมพันธ์อันลึกซึ้งของสิ่งทั้งหลาย
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เอกสารอ้างอิง
Komito, D. R., Geshe Sonam Rinchen, Dorjee, T., & Komito, D. R. (1987). Nagarjuna’s Seventy Stanzas: A Buddhist Psychology of Emptiness. In Snow Lion Publications. Snow Lion Publications.
Nagao, G. M. (1991). Madhyamika and Yogacara: A Study of Mahayana Philosophies (L. S.
Kawamura, Ed.) [Book]. State University of New York Press. (Original work published 1991)
Napper, E. (1989). Dependent-Arising and Emptiness. Wisdom Publications.
Granoff, P. (1982). The Dialectical Method of Nāgārjuna (Vigrahavyāvartinī). Translated by
Kamaleswar Bhattacharya. Edited by E. H. Johnston and Arnold Kunst. New Delhi: Motilal
Banarsidass, 1978. 106 pp. Index of Kārikās. Rs. 35 (cloth). The Journal of Asian Studies, 41(2), 378–379. https://doi.org/10.2307/2054990
Garfield, J. L. (1995). The Fundamental Wisdom of the Middle Way: Nāgārjuna's Mūlamadhyamakakārikā. Oxford University Press.