วารสารวิชาการจินตาสิทธิ์ (online) https://so19.tci-thaijo.org/index.php/Chintasit <p><strong>วารสารวิชาการจินตาสิทธิ์ (Online)</strong></p> <p>ISSN: 3057-0956 </p> <p><strong>วารสารมีนโยบายรับตีพิมพ์บทความ</strong>: <br />ด้านพระพุทธศาสนา ปรัชญา ศึกษาศาสตร์ มนุษยศาสตร์ สังคมศาสตร์ รัฐศาสตร์ รัฐประศาสนศาสตร์ และสหวิทยาการด้านสังคมศาสตร์ โดยมีกลุ่มเป้าหมายคือ นักวิจัย นักวิชาการ ครู อาจารย์ นิสิต นักศึกษาและผู้สนใจทั่วไป</p> <p><strong><span style="vertical-align: inherit;">บรรณาธิการ : </span></strong><strong><span style="font-size: 0.875rem;"><span style="vertical-align: inherit;">พระมหาอภิพงค์ คำหงษา, ดร. </span></span></strong></p> <p><strong><span style="vertical-align: inherit;">กองบรรณาธิการ</span></strong></p> <p><span style="vertical-align: inherit;">ศาสตราจารย์ ดร.ชัยยงค์ พรหมวงศ์ ประธานคณะมนตรีปฏิรูปการศึกษาภาคประชาชน<br /></span><span style="vertical-align: inherit;">รองศาสตราจารย์ ดร. สมชัย ศรีนอก มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย<br /></span><span style="vertical-align: inherit;">รองศาสตราจารย์ ดร.ธีรศักดิ์ อุปไมยอธิชัย มหาวิทยาลัยนเรศวร<br /></span><span style="vertical-align: inherit;">รองศาสตราจารย์ ดร.พชรวิทย์ จันทร์ศิริสิร มหาวิทยาลัยมหาสารคาม<br /></span><span style="vertical-align: inherit;">ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.หอมหวล บัวระภา มหาวิทยาลัยขอนแก่น<br /></span><span style="vertical-align: inherit;">ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ประยุทธ ชูสอน มหาวิทยาลัยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ</span></p> <p><strong>กำหนดออก</strong> : 4 ฉบับต่อปี <br />ฉบับที่ 1 มกราคม - มีนาคม<br />ฉบับที่ 2 เมษายน - มิถุนายน<br />ฉบับที่ 3 กรกฎาคม – กันยายน และ<br />ฉบับที่ 4 ตุลาคม – ธันวาคม</p> <p><strong>เงื่อนไขการตีพิมพ์</strong></p> <p>บทความแต่ละบทความจะได้รับการประเมินคุณภาพจากผู้ทรงคุณวุฒิก่อนตีพิมพ์ (Peer Review) โดยผู้ทรงคุณวุฒิที่มีความเชี่ยวชาญตรงตามสาขาวิชาที่เกี่ยวข้องและมีความหลากหลายจากแต่ละสถาบัน จำนวนอย่างน้อย 2 ท่าน ทั้งนี้ ผู้พิจารณาบทความไม่ทราบชื่อผู้นิพนธ์บทความและผู้นิพนธ์บทความไม่ทราบชื่อผู้พิจารณาบทความเช่นเดียวกัน (Double-Blind Peer Review) อย่างไรก็ตาม บทความที่ผ่านการประเมินแล้วจะต้องได้รับความเห็นชอบจากกองบรรณาธิการก่อนตีพิมพ์</p> <p><strong>รับตีพิมพ์บทความทั้ง บทความภาษาไทย และบทความภาษาอังกฤษ</strong></p> <p><strong>ค่าธรรมเนียมการตีพิมพ์บทความ : ยังไม่มีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการตีพิมพ์บทความ</strong></p> <p><strong>การติดต่อประสานงานและส่งบทความเผยแพร่ :</strong></p> <p>1. สอบถามรายละเอียดเบื้องต้น เช่น รอบการเผยแพร่ หนังสือตอบรับการตีพิมพ์ เป็นต้น โทร. 0896224068<br />2. Click คำแนะนำสำหรับผู้เขียน<br />3. เทมเพลทบทความวิจัย<br />4. เทมเพลทบทความวิชาการ<br />5. ลงทะเบียนวารสารและส่งบทความในวารสาร<br />6. แบบขอส่งบทความตีพิมพ์<br />7. Click ลงทะเบียนส่งบทความ<br />8. สแกนไลน์กลุ่มวารสารวิชาการจินตาสิทธิ์ เพื่อการติดต่อประสานงานเผยแพร่บทความ</p> Chissanapong Sonchan th-TH วารสารวิชาการจินตาสิทธิ์ (online) 3057-0956 <p><span style="font-weight: 400;">วารสารวิชาการจินตาสิทธิ์ อยู่ภายใต้การอนุญาต Creative Commons </span><a href="https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0/"><em><span style="font-weight: 400;">Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International (CC BY-NC-ND 4.0)</span></em></a><span style="font-weight: 400;"> เว้นแต่จะระบุไว้เป็นอย่างอื่น โปรดอ่านหน้านโยบายของเราสำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเข้าถึงแบบเปิด ลิขสิทธิ์ และการอนุญาต</span></p> การตีความใหม่ของหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงในมิติทางศาสนาและปรัชญาจากกรอบการพัฒนาสู่ปรัชญาแห่งการดำรงชีวิต https://so19.tci-thaijo.org/index.php/Chintasit/article/view/2050 <p>บทความวิชาการฉบับนี้มุ่งเสนอการตีความหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง (SEP) ในมิติที่ลึกซึ้งและกว้างขวางกว่าการเป็นเพียงแบบจำลองทางเศรษฐกิจหรือนโยบายการพัฒนาชนบท โดยวิเคราะห์และสังเคราะห์ความเชื่อมโยงของ SEP กับรากฐานทางศาสนาและปรัชญาสากลอย่างเป็นระบบ การวิจัยนี้เป็นการวิจัยเชิงเอกสาร (Documentary Research) ที่ทบทวนพระราชดำรัส แนวคิดของนักวิชาการไทยที่สำคัญ และเทียบเคียงกับหลักการแก่นในพุทธศาสนา ปรัชญาคุณธรรมของอริสโตเติล และแนวคิดเชิงวิพากษ์ต่อระบบทุนนิยมสมัยใหม่ ผลการศึกษาชี้ให้เห็นว่า SEP ไม่ใช่เพียงกรอบการพัฒนา แต่เป็น "ปรัชญาแห่งการดำรงชีวิต" (A Philosophy of Life) ที่มีลักษณะสากล โดยมีแก่นกลางสอดคล้องอย่างยิ่งกับ "มัชฌิมาปฏิปทา" ในพุทธศาสนา ซึ่งเป็นทางสายกลางระหว่างความสุดโต่งของบริโภคนิยม (กามสุขัลลิกานุโยค) และความขาดแคลน (อัตตกิลมถานุโยค) นอกจากนี้ หลักการเรื่องความพอประมาณ (Moderation) ยังสะท้อนแนวคิด "ทางสายกลาง" (The Golden Mean) ของอริสโตเติลที่นำไปสู่สภาวะ "ยูไดโมเนีย" (Eudaimonia) หรือการมีชีวิตที่ดีงาม ในขณะเดียวกัน SEP ยังทำหน้าที่เป็นคำตอบเชิงปรัชญาต่อสภาวะ "ความแปลกแยก" (Alienation) และ "ความต้องการเทียม" (False Needs) ในสังคมสมัยใหม่ที่วิพากษ์โดยนักคิดอย่าง อี.เอฟ. ชูมัคเกอร์ และ เฮอร์เบิร์ต มาร์คูเซ การตีความใหม่นี้เสนอว่า SEP มีศักยภาพในการเป็นกรอบคิดทางเลือกสำหรับการพัฒนาที่ยั่งยืนและการสร้างสุขภาวะของมนุษย์ในระดับสากล ซึ่งท้าทายกระบวนทัศน์การพัฒนาที่เน้นการเติบโตทางวัตถุเพียงอย่างเดียว อย่างไรก็ตาม การนำไปประยุกต์ใช้ในสังคมไทยยังเผชิญความท้าทายจากการถูกทำให้เป็นเครื่องมือทางการเมืองและการตีความที่ผิวเผิน ซึ่งจำเป็นต้องมีการส่งเสริมความเข้าใจในระดับปรัชญาอย่างแท้จริง</p> พระสิทธิชัย รินฤทธิ์ กิตติพัฒน์ ทาวงศ์ษา Copyright (c) 2025 วารสารวิชาการจินตาสิทธิ์ (online) https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 2025-06-18 2025-06-18 3 2 การเพิ่มทักษะการเขียนเรียงความโดยใช้แนวทางการเขียนแบบเน้นกระบวนการ https://so19.tci-thaijo.org/index.php/Chintasit/article/view/2052 <p>บทความวิชาการฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาแนวคิด ทฤษฎี และหลักการของแนวทางการสอนเขียนแบบเน้นกระบวนการ (Process-Based Writing Approach) 2) วิเคราะห์ขั้นตอนและเทคนิคการจัดการเรียนการสอนเพื่อพัฒนาทักษะการเขียนเรียงความตามแนวทางดังกล่าว และ 3) นำเสนอแนวทางการประยุกต์ใช้สำหรับผู้สอนภาษาไทยในการยกระดับความสามารถในการเขียนของผู้เรียน การศึกษานี้เป็นการวิจัยเชิงเอกสาร (Documentary Research) โดยรวบรวมและสังเคราะห์ข้อมูลจากผลงานของนักวิชาการด้านการสอนเขียนคนสำคัญ เช่น Donald Murray, Peter Elbow, Janet Emig และ Nancy Sommers รวมถึงงานวิจัยและบทความวิชาการที่เกี่ยวข้องในบริบทของประเทศไทย</p> <p>&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp; ผลการศึกษาพบว่า แนวทางการสอนเขียนแบบเน้นกระบวนการเป็นปรัชญาการสอนที่เปลี่ยนมุมมองจากการให้ความสำคัญกับ "ผลผลิต" (Product) ที่สมบูรณ์แบบในขั้นตอนสุดท้าย มาสู่การให้ความสำคัญกับ "กระบวนการ" (Process) ที่ผู้เขียนใช้ในการสร้างสรรค์งานเขียนขึ้นมา โดยประกอบด้วยขั้นตอนสำคัญ 5 ขั้นตอน ได้แก่ 1) การเตรียมการเขียน (Pre-writing) 2) การลงมือเขียนร่าง (Drafting) 3) การปรับปรุงแก้ไข (Revising) 4) การตรวจทาน (Editing) และ 5) การนำเสนอหรือเผยแพร่ (Publishing) แนวทางนี้ช่วยลดความวิตกกังวลในการเขียนของผู้เรียน ส่งเสริมการคิดวิเคราะห์ การทำงานร่วมกันผ่านกิจกรรมการวิจารณ์งานของเพื่อน (Peer Review) และสร้างทัศนคติที่ดีต่อการเขียนในระยะยาว บทบาทของผู้สอนจะเปลี่ยนจากการเป็นผู้พิพากษามาเป็นผู้ให้คำปรึกษาและผู้อำนวยความสะดวกในการเรียนรู้</p> <p>บทความนี้ได้เสนอแนวทางการประยุกต์ใช้ในชั้นเรียนอย่างเป็นรูปธรรม ตั้งแต่การออกแบบกิจกรรมในแต่ละขั้นตอน ไปจนถึงแนวทางการประเมินผลที่สอดคล้องกับปรัชญาของแนวทางดังกล่าว ซึ่งเน้นการประเมินเพื่อพัฒนามากกว่าการตัดสินคุณค่าแต่เพียงอย่างเดียว อันจะเป็นประโยชน์ต่อผู้สอนในการนำไปปรับใช้เพื่อพัฒนาทักษะการเขียนเรียงความของผู้เรียนให้มีประสิทธิภาพและมีความหมายอย่างแท้จริง</p> พรพิมล เพ็งประภา Copyright (c) 2025 วารสารวิชาการจินตาสิทธิ์ (online) https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 2025-06-18 2025-06-18 3 2 สื่อสังคมออนไลน์กับการสร้างวาทกรรมทางการเมือง: ผลกระทบต่อการรับรู้ความจริงของพลเมือง https://so19.tci-thaijo.org/index.php/Chintasit/article/view/2046 <p>บทความวิชาการฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อวิเคราะห์บทบาทของสื่อสังคมออนไลน์ในการสร้างวาทกรรมทางการเมืองและสำรวจผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อการรับรู้ความจริงของพลเมืองในยุคดิจิทัล การศึกษานี้เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) โดยใช้วิธีการทบทวนวรรณกรรม (Literature Review) จากแนวคิดทฤษฎีและงานวิจัยที่เกี่ยวข้องทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงการวิเคราะห์กรณีศึกษาที่เกิดขึ้นในบริบทการเมืองไทย ผลการศึกษาพบว่า สื่อสังคมออนไลน์ได้เปลี่ยนพลวัตของพื้นที่สาธารณะทางการเมืองอย่างมีนัยสำคัญ โดยเปิดโอกาสให้เกิดการสร้างและเผยแพร่วาทกรรมทางการเมืองที่หลากหลาย อย่างไรก็ตาม ลักษณะทางสถาปัตยกรรมของแพลตฟอร์ม เช่น อัลกอริทึมที่ก่อให้เกิดสภาวะห้องเสียงสะท้อน (Echo Chamber) และฟองสบู่แห่งการกรอง (Filter Bubble) ได้เร่งให้เกิดการแบ่งขั้วทางการเมือง (Political Polarization) และทำให้ข้อมูลบิดเบือน (Disinformation) แพร่กระจายอย่างรวดเร็ว ปรากฏการณ์เหล่านี้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อการรับรู้ความจริงของพลเมือง ทำให้เส้นแบ่งระหว่างข้อเท็จจริงและความคิดเห็นเลือนรางลง และบั่นทอนพื้นฐานของความเข้าใจร่วมกันในสังคม ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของระบอบประชาธิปไตย บทความนี้เสนอแนะให้ทุกภาคส่วนตระหนักถึงความท้าทายดังกล่าว โดยเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการส่งเสริมการรู้เท่าทันสื่อดิจิทัล (Digital Media Literacy) ความรับผิดชอบของแพลตฟอร์ม และการสร้างเสริมวัฒนธรรมการตรวจสอบข้อมูลอย่างมีวิจารณญาณในหมู่พลเมือง</p> พระครูพิสุทธิธรรมาภรณ์ ทองสะคม Copyright (c) 2025 วารสารวิชาการจินตาสิทธิ์ (online) https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 2025-06-18 2025-06-18 3 2 การจัดการเรียนรู้แบบผสมผสานและการเรียนรู้แบบยืดหยุ่นสู่กระบวนทัศน์ใหม่ของการศึกษาไทย https://so19.tci-thaijo.org/index.php/Chintasit/article/view/2048 <p>บทความวิชาการฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสังเคราะห์แนวคิด หลักการ และวิเคราะห์ความสัมพันธ์เชิงบูรณาการระหว่างการจัดการเรียนรู้แบบผสมผสาน (Blended Learning) และการเรียนรู้แบบยืดหยุ่น (Flexible Learning) เพื่อนำเสนอเป็นกรอบแนวคิดและกระบวนทัศน์ใหม่สำหรับการศึกษาไทยในยุคดิจิทัล การศึกษาครั้งนี้เป็นการวิจัยเอกสาร (Documentary Research) โดยทบทวนและวิเคราะห์วรรณกรรมที่เกี่ยวข้องจากผลงานของนักวิชาการทั้งในและต่างประเทศอย่างครอบคลุม ผลการสังเคราะห์พบว่า การเรียนรู้แบบยืดหยุ่น (Flexible Learning) เป็นปรัชญาการศึกษาที่กว้างกว่า มีเป้าหมายเพื่อปลดปล่อยการเรียนรู้จากข้อจำกัดด้านเวลา สถานที่ และวิธีการ โดยให้อำนาจและทางเลือกแก่ผู้เรียนในการควบคุมวิถีการเรียนรู้ของตนเอง (Pace, Place, Path) ในขณะที่การจัดการเรียนรู้แบบผสมผสาน (Blended Learning) ซึ่งเป็นการบูรณาการอย่างมีเป้าหมายระหว่างการเรียนรู้ในชั้นเรียนแบบเผชิญหน้า (Face-to-Face) และการเรียนรู้ออนไลน์ (Online Learning) ถือเป็นหนึ่งในกลยุทธ์และรูปแบบการจัดการเรียนรู้ (Modality) ที่มีประสิทธิภาพที่สุดในการทำให้ปรัชญาการเรียนรู้แบบยืดหยุ่นเกิดขึ้นได้จริง บทความนี้วิเคราะห์ความสัมพันธ์ดังกล่าวผ่านกรอบแนวคิดสำคัญ เช่น ชุมชนแห่งการสืบสอบ (Community of Inquiry - CoI) และแบบจำลอง SAMR (SAMR Model) เพื่อชี้ให้เห็นว่าการออกแบบการเรียนรู้แบบผสมผสานที่ก้าวหน้าสามารถส่งเสริมมิติทางสังคม (Social Presence) มิติทางการสอน (Teaching Presence) และมิติทางปัญญา (Cognitive Presence) ได้อย่างสมดุล และเปลี่ยนผ่านจากการใช้เทคโนโลยีเพื่อเสริมประสิทธิภาพไปสู่การพลิกโฉมการเรียนรู้ อย่างไรก็ตาม การนำไปใช้ในบริบทไทยยังคงเผชิญความท้าทายเชิงโครงสร้างและวัฒนธรรมหลายประการ อาทิ ความเหลื่อมล้ำทางดิจิทัล สมรรถนะครู หลักสูตรและการประเมินผลที่ยังไม่ยืดหยุ่น และวัฒนธรรมในสถานศึกษา ข้อเสนอแนะเชิงนโยบายและการปฏิบัติจึงมุ่งเน้นไปที่การสร้างระบบนิเวศการเรียนรู้ที่สนับสนุนอย่างรอบด้าน การพัฒนาครูสู่การเป็น "สถาปนิกการเรียนรู้" (Learning Architect) และการส่งเสริมวัฒนธรรมการเรียนรู้ตลอดชีวิตเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงของโลกอนาคต</p> สุริณี วัฒนศรีทานัง Copyright (c) 2025 วารสารวิชาการจินตาสิทธิ์ (online) https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 2025-06-18 2025-06-18 3 2 การศึกษาแนวทางการเรียนรู้แบบ Social Learning ผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัลเพื่อพัฒนาทักษะทางสังคม https://so19.tci-thaijo.org/index.php/Chintasit/article/view/2040 <p>การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษารูปแบบการเรียนรู้แบบ Social Learning ผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัลที่เหมาะสมกับผู้เรียนระดับมัธยมศึกษา 2) วิเคราะห์ผลของการเรียนรู้แบบ Social Learning ที่มีต่อการพัฒนาทักษะทางสังคมของผู้เรียน และ 3) เสนอแนวทางการจัดการเรียนรู้ที่ใช้แพลตฟอร์มดิจิทัลเพื่อส่งเสริมทักษะทางสังคม ใช้ระเบียบวิธีวิจัยแบบผสมผสาน (Mixed Methods Research) โดยระยะที่ 1 เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพจากการศึกษาวรรณกรรม สัมภาษณ์ครูและผู้เชี่ยวชาญ รวม 8 คน และระยะที่ 2 เป็นการวิจัยเชิงทดลองแบบกลุ่มเดียววัดก่อน–หลัง (One Group Pretest–Posttest Design) กับนักเรียนมัธยมศึกษาจำนวน 60 คน</p> <p>&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp; ผลการวิจัยพบว่า รูปแบบการเรียนรู้แบบ Social Learning ที่เหมาะสมควรมีองค์ประกอบ 5 ด้าน ได้แก่ การจัดสภาพแวดล้อมดิจิทัลที่เอื้อต่อการมีปฏิสัมพันธ์ การออกแบบกิจกรรมที่เน้นการเรียนรู้ร่วมกัน การส่งเสริมการสื่อสารในบริบทออนไลน์ การสะท้อนคิด และการประเมินพฤติกรรมทางสังคม ผลการทดลองแสดงให้เห็นว่า ผู้เรียนมีคะแนนทักษะทางสังคมหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 โดยเฉพาะในด้านการสื่อสารและการร่วมมือ อีกทั้งยังได้แนวทางการจัดการเรียนรู้ที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการพัฒนาทักษะทางสังคมในชั้นเรียนจริงได้อย่างมีประสิทธิภาพ</p> พระมหาวัฒนา สุรจิตฺโต สุรีพร ชาบุตรบุณฑริก Copyright (c) 2025 วารสารวิชาการจินตาสิทธิ์ (online) https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 2025-06-18 2025-06-18 3 2